รีเซต

โควิด-19 : ผ่อนปรนระยะ 3 เริ่ม 1 มิ.ย.กิจการและกิจกรรมเสี่ยงปานกลาง-สูงกลับมาเปิดบริการได้

โควิด-19 : ผ่อนปรนระยะ 3 เริ่ม 1 มิ.ย.กิจการและกิจกรรมเสี่ยงปานกลาง-สูงกลับมาเปิดบริการได้
บีบีซี ไทย
29 พฤษภาคม 2563 ( 12:43 )
2.1K
1
โควิด-19 : ผ่อนปรนระยะ 3 เริ่ม 1 มิ.ย.กิจการและกิจกรรมเสี่ยงปานกลาง-สูงกลับมาเปิดบริการได้

Getty Images

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ประกาศมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3 เริ่มวันที่ 1 มิ.ย.นี้ โดยให้กิจการและกิจกรรมที่มีความเสี่ยงปานกลางถึงสูงกลับมาเปิดให้บริการได้ ขยายเวลาเปิดห้างสรรพสินค้าถึง 21.00 น. ปรับลดเวลาเคอร์ฟิวเหลือ 5 ชั่วโมง ตั้งแต่ 23.00-03.00 น. และอนุญาตให้ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดได้หากมีความจำเป็น

 

มติให้ผ่อนปรนมาตรการควบคุมในระยะที่ 3 ของ ศบค. มีขึ้นขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในประเทศไทยในรอบ 24 ชั่วโมงอยู่ที่ 11 ราย ทั้งหมดเป็นคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศคูเวต และได้รับการยืนยันการตรวจพบเชื้อขณะที่อยู่ในสถานกักกันโรคของรัฐ

 

พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่ากิจการและกิจกรรมที่กลับมาเปิดให้บริการได้ในระยะที่ 3 จะต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ทั้งการวัดอุณหภูมิและสังเกตอาการป่วยของพนักงานและผู้ใช้บริการ การลงทะเบียนกับแพลตฟอร์มไทยชนะ และต้องพัฒนานวัตกรรมป้องกันควบคุมโรคในระยะยาว

 

พล.อ.สมศักดิ์กล่าวว่า ศบค.ยังคงมาตรการห้ามเข้าราชอาณาจักรเว้นเช่นเดิม เพราะยังมีความเสี่ยงเรื่องการนำเชื้อจากต่างประเทศเข้ามา คนไทยที่เดินทางกลับเข้าประเทศต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคเช่นเดิม

 

สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการผ่อนปรนในระยะที่ 3 ตามที่ เลขา สมช.ชี้แจง มีดังนี้

  • เคอร์ฟิว : ปรับเวลาเป็น 23.00-03.00 น.
  • โรงเรียนและสถานศึกษา : ให้ใช้สถานที่ในการสอบคัดเลือกและอบรมระยะสั้นได้ แต่ยังคงปิดการเรียนการสอนไปจนถึงวันที่ 1 ก.ค. อย่างไรก็ตามกระทรวงศึกษาธิการจะไปพิจารณาให้โรงเรียนและสถาบันการศึกษาบางแห่งเปิดก่อนได้ เช่น โรงเรียนสอนด้านอาชีพและกีฬา โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีการระบาดของโรค และมีจำนวนนักเรียนน้อย
  • ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุมและการจัดนิทรรศการ : เปิดดำเนินการได้เฉพาะที่มีพื้นที่ไม่เกิน 20,000 ตร.ม.และต้องปิดในเวลา 21.00 น.
  • ศูนย์พระเครื่อง สนามพระเครื่อง : เปิดดำเนินการได้แต่ต้องควบคุมจำนวนคนไม่ให้หนาแน่นเกินไป
  • ร้านเสริมสวย สถานเสริมความงาน ร้านตัดผม : เปิดบริการทุกรูปแบบได้ยกเว้นการเสริมความงามบริเวณใบหน้า แต่ต้องใช้เวลาทำไม่เกิน 2 ชม. และห้ามนั่งรอในร้าน
  • ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก : เปิดเฉพาะเพื่อทำการประกอบอาหารให้ผู้ปกครองมารับ ยังไม่มีการนำเด็กมา
  • ร้านนวดเพื่อสุขภาพ สปา นวดแผนไทย นวดเท้า : ต้องให้บริการไม่เกิน 2 ชม.ต่อราย งดการอบไอน้ำ อบตัว
  • ฟิตเนส : ให้ทำกิจกรรมได้ทั้งหมด แต่จำกัดระยะเวลาให้บริการ
  • โรงภาพยนตร์ : จำกัดผู้เข้าชมไม่เกิน 200 คน นั่งใกล้กันได้ ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม
  • สวนสัตว์ สถานที่จัดแสดงสัตว์: เปิดได้ตามปกติ
  • การเดินทางข้ามจังหวัด : ทำได้แต่ขอความร่วมมือให้เดินทางเฉพาะที่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น และไม่ใช่การเดินทางท่องเที่ยว

 

ลำดับเหตุการณ์โควิด-19 ระบาดในไทย

วันที่

เหตุการณ์

13 ม.ค.

กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยืนยันพบผู้ติดเชื้อในไทยรายแรก เป็นนักท่องเที่ยวจีน ยังไม่พบการระบาดในประเทศ

31 ม.ค.

พบการติดเชื้อในประเทศ (local transmission) รายแรก เป็นคนขับแท็กซี่

24 ก.พ.

คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย

1 มี.ค.

รายงานผู้เสียชีวิตรายแรก เป็นชายไทยอายุ 35 ปี

17 มี.ค.

ครม.มีมติสั่งปิดโรงเรียนและสถานศึกษาทั่วประเทศ

22 มี.ค.

กทม. สั่งปิดสถานที่เสี่ยง 26 ประเภท

26 มี.ค.

รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั่วราชอาณาจักร มีผลถึง 30 เม.ย.

3 เม.ย.

รัฐบาลประกาศห้ามประชาชนออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ทั่วประเทศ 22.00-04.00 น

4 เม.ย.

สำนักงานการบินพลเรือนฯ ประกาศห้ามทุกสายการบินบินเข้าไทยเป็นการชั่วคราว

27 เม.ย.

ศบค.ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครั้งที่ 1 ถึง 31 พ.ค.

3 พ.ค.

ศบค.ผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 1 ให้กิจการที่มีความเสี่ยงต่ำ 6 ประเภทกลับมาเปิดบริการได้

13 พ.ค.

ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่เลยเป็นวันแรก

17 พ.ค.

ศบค.ผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 2 อนุญาตให้เปิดห้างสรรพสินค้า สถานออกกำลังกายบางส่วน และปรับเวลาเคอร์ฟิวเป็น 23.00-04:00 น.

 

 
  

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง