จับแล้วแก๊งปล่อยเงินกู้โหด ต่อยหญิงวัย 66 ล้มทั้งยืน ตร.บึงกาฬเร่งออกมาตรการ ไม่ให้เกิดเรื่องซ้ำ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 มกราคม พล.ต.ต.สมศักดิ์ คงไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พ.อ.ยรรยง แสงฮาด รอง ผอ.กอ รมน.บึงกาฬ, พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิด ผกก.สืบสวน ภ.จว.บึงกาฬ, พ.ต.อ.วิชยานนท์ นิติกุล ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ แถลงข่าวการจับกุม 1.นายสมาพล ไชยศิริ หรือเก่ง อายุ 23 ปี ชาว ต.ดงขวาง อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี ตามหมายจับของศาลจังหวัดบึงกาฬที่ 11/2564 ลงวันที่ 16 มกราคม 2564 ได้ที่บริเวณสวนสาธารณะหนองถิ่น ต.มีชัย อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย พร้อมพวกคือ 2.นายนัฐพล มุนิล หรือต้อง อายุ 24 ปี ชาว ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ 3.นายศิวกร บุญสลี อายุ 26 ปี ชาว ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 4.นายอิศรศ ดงทอง อายุ 23 ปี ชาว ต.หนองขาม อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ และ 5.นายสมพงษ์ จันแจ้ง อายุ 44 ปี ชาว ต.กวนวัน อ.เมือง จ.หนองคาย พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือจำนวน 5 เครื่อง รถเก๋งยี่ห้อซูซูกิ สีดำ ทะเบียน ขษ 3275 นครราชสีมา
หลังร่วมกันทำร้ายนางสุมาลี โพธิสว่าง อายุ 66 ปี แม่ค้าไส้กรอกชาวบึงกาฬ ที่ไปกู้ยืมเงินมาเป็นทุนค้าขาย จำนวนเงิน 5,000 บาท ตั้งแต่ 14 ตุลาคม 63 แต่ถูกหักดอกเบี้ยล่วงหน้าไว้ 1,000 บาท คงเหลือได้รับเงินสดจริงๆ 4,000 บาท โดยตกลงกันว่าชำระดอกเบี้ยพร้อมเงินต้นเป็นรายวัน วันละ 250 บาท รวมเวลา 24 วัน หลังจากนั้นก็ได้ชำระดอกเบี้ยพร้อมเงินต้นทุกวัน กระทั่งถึงวันที่ 7 พ.ย.63 จึงขอผ่อนผันเป็นวันละ 100 บาท เพราะสภาวะโรคโควิด-19 กำลังระบาดรอบ 2 เงินที่กู้มาทำไส้กรอกขายในตลาดเช้าก็ขายได้ไม่ดี ประกอบกับเจ้าหนี้ก็ห่างหายไปหลายวัน เมื่อมาเก็บอีกทีจึงขอดูบัญชีเปรียบเทียบกับบัญชีของตนที่ทำเอาไว้ จึงสร้างความไม่พอใจให้นายเก่ง ที่เดินปรี่เข้ามาชกหน้าแตกเย็บไป 4 เข็ม
อ่านข่าว : หญิงวัย 66 แจ้งความ แก๊งปล่อยเงินกู้ทวงหนี้โหด เทียบบัญชีแล้วไม่พอใจ โดนชกหน้าแตกล้มทั้งยืน
พล.ต.ต.สมศักดิ์กล่าวว่า คดีนี้ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจ เพราะเป็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนภาค 4 และชุดสืบสวนหนองคาย บึงกาฬ ออกติดตามจนทราบว่าแก๊งเงินกู้รายนี้อยู่ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย จึงขอศาลออกหมายจับ อย่างไรก็ตาม ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬจะได้มีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาในจังหวัดอีก โดยจะให้ชุดสืบสวนไล่ทำประวัติสถาบันเงินกู้ต่างๆ ไว้ หากมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นอีกก็จะได้รู้ทันทีว่าเป็นกลุ่มไหน
พล.ต.ต.สมศักดิ์กล่าวว่า คดีนี้ได้ตั้งข้อหากับแก๊งเงินกู้ดังกล่าวร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆอันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ 2.ร่วมกันทวงหนี้โดยการข่มขู่ ใช้ความรุนแรงหรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกายของลูกหนี้ 3.ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย และ 4.เสพยาบ้าฯ นำตัวส่งดำเนินคดีต่อไป