"เปรู" ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเมืองหลวง
ประกาศที่เผยแพร่กิจจานุเบกษาระบุว่า สถานการณ์ฉุกเฉินมีผลบังคับใช้ 30 วันในกรุงลิมา แคว้นกุสโก แคว้นปูโน และเมืองท่ากายาโอที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวง ให้อำนาจกองทัพแทรกแซงเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และระงับสิทธิประชาชนตามรัฐธรรมนูญหลายอย่าง เช่น เสรีภาพในการเคลื่อนไหวและชุมนุม
สถานการณ์ในเปรูยังคงคุกรุ่นจากชุมนุมประท้วงของประชาชนในหลายพื้นที่ มีการปิดกั้นถนนมีมากกว่า 100 จุด ส่วนใหญ่อยู่รอบกรุงลิมา และพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศที่เป็นศูนย์กลางการประท้วง กลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีเปโดร กัสติลโญเดินขบวนและปิดกั้นถนนทั่วเปรูตั้งแต่เดือนธันวาคม เรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งใหม่และปลดนางดินา โบลูอาร์เต รองประธานาธิบดีที่ขึ้นเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศ หลังจากกัสติลโญพยายามชิงยุบสภาและถูกลงมติถอดถอนจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม
กัสติลโญ วัย 53 ปี ซึ่งกำลังถูกสอบสวนในคดีฉ้อโกงระหว่างดำรงตำแหน่งหลายคดี ถูกสั่งคุมขังเป็นเวลา 18 เดือนระหว่างรอพิจารณาคดีข้อหาเป็นกบฏ ส่วนประธานาธิบดีหญิงโบลูอาร์เต วัย 60 ปี ประธานาธิบดีคนที่ 6 ในรอบ 5 ปี ยืนยันทางโทรทัศน์เมื่อค่ำวันศุกร์ว่า จะไม่ลาออก เพราะมีหน้าที่ความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ