พิษโอมิครอน-ต้นทุนพุ่ง! ทุบความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ.อยู่ที่ 86.7 ร่วงลงในรอบ 6 เดือน
ข่าววันนี้ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นเดือนก.พ. 2565 อยู่ที่ระดับ 86.7 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 88.0 ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 6 เดือน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ภาครัฐยกระดับการเตือนภัยโรคโควิด-19 จากระดับ 3 เป็นระดับ 4 ทั่วประเทศ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและอุปสงค์ในประเทศชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังเผชิญปัญหาต้นทุนการผลิตสินค้าปรับตัวสูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบ ราคาพลังงานที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงตามทิศทางราคาตลาดโลก รวมถึงต้นทุนค่าขนส่งสินค้าและการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) จากผลพวงความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งยังส่งผลให้เศรษฐกิจการค้าโลกมีความไม่แน่นอน ผู้ประกอบการส่งออกต้องเผชิญความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้านำเข้า
โดยจากการสำรวจผู้ประกอบการ 1,242 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมทั่วประเทศในเดือนก.พ. 2565 พบว่า ปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้นได้แก่ ราคาน้ำมัน 75.2% สถานการณ์ระบาดของโควิด 68.5% เศรษฐกิจในประเทศ 56.8% สภาวะเศรษฐกิจโลก 52.3% อัตราแลกเปลี่ยน (มุมมองผู้ส่งออก) โดยอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ 48.3% สถานการณ์การเมืองในประเทศ 45.5% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 45.6%
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 97.1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนอยู่ที่ระดับ 96.4 เนื่องจากผู้ประกอบการเห็นว่าการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ไม่รุนแรงเหมือนช่วงก่อนหน้า กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังดำเนินต่อไปได้ ขณะที่ภาคการผลิตทั่วโลกยังคงขยายตัวส่งผลดีต่อภาคการส่งออกของไทย การผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศตามนโยบาย Test & Go ช่วยเอื้อต่อการเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป
ทั้งนี้ ส.อ.ท. มีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐให้เตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เช่น การสำรองยาให้เพียงพอ บริหารจัดการเตียงรองรับผู้ป่วยวิกฤต สนับสนุนยาและสิ่งของจำเป็นในการกักตัวที่บ้าน เพิ่มจำนวนโรงพยาบาลสนาม/ศูนย์พักคอย และการแจกชุดตรวจ ATK ให้กับกลุ่มเสี่ยง
นายสุพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่สำคัญขอเสนอให้ยกเลิกมาตรการ Test & Go โดยให้ผู้เดินทางเข้าประเทศแสดงวัคซีนพาสปอร์ตแทนก่อนเข้าประเทศ พร้อมทั้งจัดให้มีระบบตรวจติดตามผู้เดินทางเข้าประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ และเสริมสร้างบรรยากาศด้านการท่องเที่ยวของไทย พร้อมออกมาตรการดูแลราคาพลังงาน อาทิ การตรึงราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ราคาก๊าซ และการคงค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ ขอให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างภาครัฐ-เอกชน เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน รวมทั้งหามาตรการบรรเทาผลกระทบให้แก่ผู้ประกอบการด้านการค้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลเพื่อให้ภาคเอกชนนำไปวางแผนการค้าหรือแสวงหาโอกาสทางค้าในตลาดที่มีศักยภาพ