สธ.เริ่มฉีควัคซีนโควิดผู้สูงวัย-กลุ่มโรคเรื้อรัง 7 มิ.ย.ลงทะเบียนผ่าน "หมอพร้อม"
วันนี้ (28 เม.ย.64) ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธรณสุข กล่าวยืนยันว่า คนไทยทั้งประเทศ จะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างทั่วถึงทุกคน เพื่อควบคุมโรค สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ฟื้นฟูและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ
ในระยะแรก มีเป้าหมายฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วย ทั้งภาครัฐและเอกชน รวม 3.8 ล้านคน ปกป้องระบบสาธารณสุขของประเทศ ตั้งแต่ 28 ก.พ.64 จนถึงขณะนี้ฉีดครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด รวมกว่า 1.2 ล้านโดส มีผู้รับวัคซีนเข็มแรกแล้วกว่า 1 ล้านคน และรับวัคชีนครบ 2 เข็มอีกกว่า 2 แสนคน
ส่วนระยะที่ 2 จะมีวัคชีนล็อตใหญ่ของแอสตร้าเซนเนก้า และเริ่มให้บริการฉีดตั้งแต่เดือนมิ.ย.64 โดยเริ่มฉีดให้แก่ประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งเบาหวาน และโรคอ้วน จำนวนกว่า 16 ล้านคน เพื่อลดความรุนแรงของโรคในกลุ่มเสี่ยงเสียชีวิตสูง
โดยจะเปิดให้ทั้ง 2 กลุ่มนี้ ลงทะเบียนแสดงความประสงค์รับวัคซีนโควิด-19 เพื่อจัดลำดับนัดหมาย ผ่านไลน์ "หมอพร้อม" เวอร์ชั่น 2 ได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.64 หรือติดต่อนัดหมายที่โรงพยาบาลใกล้บ้านที่มีประวัติการรักษา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือประสานอสม.ในพื้นที่ ซึ่งเริ่มฉีดวัคชีนตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. ถึง 31 ก.ค.นี้
ด้าน นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ทุกโรงพยาบาลที่ดูแลกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังได้นำข้อมูลเข้าสู่ระบบหมอพร้อมแล้ว โดยอัปเดตไลน์ "หมอพร้อม" เป็นเวอร์ชั่น 2 เพิ่มฟังก์ชันการลงทะเบียนฉีดวัคชีนโควิด-19 ให้ทั้ง 2 กลุ่มลงทะเบียน เลือกโรงพยาบาล นัดหมายวันเวลา รับการฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ ก่อนฉีดวัคซีน 1 วันจะมีข้อความแจ้งเตือนให้มารับวัคซีนตามนัด หลังจากที่ฉีดวัคซีนแล้วจะได้รับข้อความยืนยันการรับวัคซีน รวมถึงจะมีการส่งแบบประเมินอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีน 1 วัน 7 วันและ 30 วัน ส่วนวัคซีนเข็มที่ 2 ระบบจะดำเนินการแบบเดียวกัน และมีการออกใบรับรองการฉีดวัคชีนครบ 2 เข็มด้วย
นอกจากนี้ ยังมีระบบการเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์โดยคณะผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนและแพทย์สาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อวินิจฉัยและให้ความเห็นสาเหตุการป่วยว่าเกิดจากวัคชีนหรือไม่ ให้เกิดความชัดเจน และดูแลความปลอดภัยของผู้รับวัคซีน เพื่อให้เกิดความมั่นใจในแผนงานของประเทศไทย