ประธานาธิบดี 'จีน-อินโดฯ' มุ่งมั่นร่วมสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน

ฃปักกิ่ง, 27 ก.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (26 ก.ค.) สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จัดการสนทนากับโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ซึ่งเดินทางเยือนจีน ณ กรุงปักกิ่ง โดยประธานาธิบดีทั้งสองได้แลกเปลี่ยนมุมมองเชิงลึกและรอบด้าน และบรรลุความเข้าใจร่วมอันสลักสำคัญหลายประการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์จีน-อินโดนีเซีย และประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกัน

สีจิ้นผิงแสดงความยินดีที่ทั้งสองฝ่ายมีมติเกี่ยวกับทิศทางโดยรวมของการสร้างประชาคมจีน-อินโดนีเซียที่มีอนาคตร่วมกัน และกล่าวว่าจีนจะทำงานกับอินโดนีเซียเพื่อส่งเสริมความไว้วางใจซึ่งกันและกันเชิงยุทธศาสตร์ พร้อมสนับสนุนอีกฝ่ายในการปกป้องอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์จากการพัฒนา ในการบุกเบิกวิถีการพัฒนาอันสอดคล้องกับเงื่อนไขของชาติ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตและสร้างชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่ดียิ่งขึ้นความยืดหยุ่นและความมีชีวิตชีวาของสายสัมพันธ์ทวิภาคีสีจิ้นผิงกล่าวว่าวิโดโดนับเป็นผู้นำรัฐคนแรกที่จีนได้รับรองการเดินทางเยือน หลังจากมีการจัดการแข่งขันกีฬาปักกิ่ง โอลิมปิก ฤดูหนาว ซึ่งสิ่งนี้สะท้อนความมุ่งมั่นอันแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายในการขับเคลื่อนสายสัมพันธ์ทวิภาคีให้เจริญเติบโตสีจิ้นผิงระบุว่าความสัมพันธ์จีน-อินโดนีเซีย มีการเติบโตที่แข็งแกร่งภายใต้การชี้แนะร่วมกันของประธานาธิบดีทั้งสองตลอดหลายปีที่ผ่านมา แสดงถึงความยืดหยุ่นและความมีชีวิตชีวาที่ยิ่งใหญ่ ส่วนความไว้วางใจซึ่งกันและกันเชิงยุทธศาสตร์มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น และความร่วมมือสี่เสาอันได้แก่ การเมือง เศรษฐกิจ ประชาชน และความร่วมมือทางทะเล มีความลึกซึ้งยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งสองฝ่ายได้แสดงบทบาทอย่างแข็งขันด้วยความรับผิดชอบในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพระดับภูมิภาค และส่งเสริมความสามัคคีและความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยทั้งสองประเทศได้เป็นตัวอย่างของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่ที่แสวงหาความแข็งแกร่งผ่านความสามัคคีและความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ทุกฝ่าย"ข้อเท็จจริงต่างๆ ได้พิสูจน์ว่าความสัมพันธ์จีน-อินโดนีเซียที่เข้มแข็ง ไม่เพียงสร้างผลประโยชน์ร่วมระยะยาวแก่ทั้งสองประเทศ แต่ยังส่งผลกระทบเชิงบวกและกว้างไกลในระดับภูมิภาคและระดับโลกด้วย" สีจิ้นผิงกล่าวปัจจุบันประชาชนชาวจีนมุ่งมั่นทำงานตามเป้าหมายแห่งศตวรรษลำดับที่ 2 อันเป็นการสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ที่ยิ่งใหญ่ในทุกด้าน ส่วนประชาชนชาวอินโดนีเซียมุ่งมั่นทำงานตามวิสัยทัศน์ 2045 อย่างแข็งขัน โดยสีจิ้นผิงแสดงความพร้อมทำงานร่วมกับประธานาธิบดีวิโดโด และเดินหน้าชี้แนะแนวทางการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนของความสัมพันธ์ทวิภาคีจากจุดยอดเชิงยุทธศาสตร์และฉากทัศน์ระยะยาว เพื่อนำพาผลประโยชน์มาสู่ประชาชนทั้งสองประเทศเพิ่มขึ้น และมีส่วนส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและที่อื่นๆ ทั่วโลกเพิ่มขึ้นด้านวิโดโดกล่าวว่าอินโดนีเซียและจีนเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านที่มีเป้าหมายสำคัญอย่างการร่วมสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกัน และความร่วมมือระหว่างสองประเทศเป็นประโยชน์ต่อกัน ซึ่งไม่เพียงส่งผลลัพธ์อันดีแก่ประชาชนทั้งสองประเทศ แต่ยังมีส่วนส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาในภูมิภาคและที่อื่นๆ ทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วยวิโดโดชี้ว่าความร่วมมือที่ดีระหว่างอินโดนีเซียและจีนได้แสดงถึงลักษณะทางยุทธศาสตร์ของความสัมพันธ์ทวิภาคี โดยอินโดนีเซียจะทำงานร่วมกับจีนเพื่อส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้าน และมีส่วนส่งเสริมสันติภาพระดับภูมิภาคและการพัฒนาระดับโลกมากยิ่งขึ้นต่อไปประชาคมจีน-อินโดนีเซียที่มีอนาคตร่วมกันสีจิ้นผิงกล่าวว่าจีนและอินโดนีเซียมีการพัฒนาอยู่ในขั้นตอนที่คล้ายกัน มีผลประโยชน์โยงโยกัน ก้าวเดินตามหลักปรัชญาและวิถีการพัฒนาที่คล้ายกัน และมีอนาคตเกี่ยวโยงใกล้ชิดร่วมกัน การสร้างประชาคมจีน-อินโดนีเซียที่มีอนาคตร่วมกันจึงเป็นปณิธานและความคาดหวังร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศทั้งสองฝ่ายต้องการเสริมสร้างความร่วมมือตามแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) คุณภาพสูงให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มพูนผลลัพธ์อันงดงาม มุ่งก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุงให้เสร็จสิ้นตามกำหนดการด้วยมาตรฐานสูง และดำเนินโครงการความร่วมมือขนาดใหญ่อย่างระเบียงเศรษฐกิจรอบด้านระดับภูมิภาค และ "สองประเทศ อุทยานแฝด" ให้ดีเยี่ยมสีจิ้นผิงกล่าวว่าจีนจะเดินหน้าสนับสนุนอินโดนีเซียอย่างเต็มที่ในการสร้างศูนย์กลางการผลิตวัคซีนระดับภูมิภาค และจะยกระดับความร่วมมือด้านสาธารณสุขกับอินโดนีเซียสีจิ้นผิงเสริมว่าจีนยินดีนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์และผลิตภัณฑ์การเกษตรและผลพลอยได้ที่มีคุณภาพจากอินโดนีเซีย มีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองหลวงแห่งใหม่และนิคมอุตสาหกรรมกาลิมันตันเหนือของอินโดนีเซีย ขยับขยายความร่วมมือในการพัฒนาการเงิน และบ่มเพาะตัวขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ในเศรษฐกิจดิจิทัลและการพัฒนาอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้านวิโดโดระบุว่าอินโดนีเซียยินดีต้อนรับจีนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองหลวงแห่งใหม่และนิคมอุตสาหกรรมกาลิมันตันเหนือ และแสวงหาการประสานงานเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างยุทธศาสตร์แกนกลางทางทะเลโลก (Global Maritime Fulcrum) และแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง โดยอินโดนีเซียพร้อมทำงานร่วมกับจีนเพื่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงสายจาการ์ตา-บันดุงให้เสร็จสิ้นและเปิดใช้งานตามกำหนดการ ซึ่งจะกลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายแห่งมิตรภาพทวิภาคียืนเคียงข้างกันอย่างสามัคคีสีจิ้นผิงกล่าวว่าจีนและอินโดนีเซียต้องการยืนเคียงข้างกันอย่างสมัครสมานสามัคคี ทำงานตามความรับผิดชอบของการเป็นประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่อย่างเต็มที่ เดินตามระบอบพหุภาคีที่แท้จริง ยึดมั่นภูมิภาคนิยมที่เปิดกว้าง และมีส่วนส่งเสริมการพัฒนาธรรมาภิบาลระดับโลกด้วยภูมิปัญญาตะวันออก (Oriental wisdom) และพลังแห่งเอเชีย ยามเผชิญความเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยพานพบมาก่อนจีนสนับสนุนอินโดนีเซียอย่างเต็มที่ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศ G20 บนเกาะบาหลี และจะเพิ่มการประสานงานและความร่วมมือกับอินโดนีเซียเพื่อความสำเร็จของการประชุมสุดยอดดังกล่าว ขณะเดียวกันจีนจะสนับสนุนการเป็นประธานอาเซียนของอินโดนีเซียในปีหน้า และจะขยับขยายความสามัคคีและความร่วมมือกับอาเซียน ด้วยจุดสำคัญอยู่ที่ข้อเสนอ 5 ประการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างบ้านร่วมกัน เพื่อปลดปล่อยพลังใหม่ของความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านจีน-อาเซียนนอกจากนั้นจีนยินดีต้อนรับอินโดนีเซียเข้ามามีส่วนร่วมในความร่วมมือ "บริกส์ พลัส" (BRICS Plus) อย่างต่อเนื่อง โดยจีนชื่นชมแรงสนับสนุนและความมุ่งมั่นจากอินโดนีเซียที่มีต่อแผนริเริ่มการพัฒนาระดับโลก (Global Development Initiative) และแผนริเริ่มความมั่นคงระดับโลก (Global Security Initiative) และพร้อมติดต่อสื่อสารและร่วมมือกับอินโดนีเซียอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นในเรื่องนี้ด้านวิโดโดขอบคุณจีนสำหรับการสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพการประชุมกลุ่มประเทศ G20 ของอินโดนีเซีย โดยอินโดนีเซียจะยังคงประสานงานอย่างใกล้ชิดกับจีนต่อไปเพื่อความสำเร็จของการประชุมสุดยอด G20 บนเกาะบาหลี ขณะเดียวกันอินโดนีเซียพร้อมดำเนินความพยายามอย่างแข็งขันในฐานะประธานหมุนเวียนของอาเซียนในปีหน้าเพื่อการเติบโตของความสัมพันธ์อาเซียน-จีนอนึ่ง ประธานาธิบดีทั้งสองยังได้แลกเปลี่ยนมุมมองในประเด็นต่างๆ อาทิ วิกฤตยูเครน โดยเห็นพ้องว่าประชาคมนานาชาติควรสร้างสภาพแวดล้อมที่เกื้อหนุนการเจรจาสันติภาพ ดำเนินบทบาทที่สร้างสรรค์ในการลดความรุนแรงของสถานการณ์ในยูเครน และรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจโลก และทำงานร่วมกันเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพอันได้มาอย่างยากยิ่งในภูมิภาคทั้งสองฝ่ายได้ออกคำแถลงร่วมต่อสื่อมวลชนว่าด้วยการประชุมทวิภาคีระหว่างประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนและประธานาธิบดีสาธารณรัฐอินโดนีเซีย พร้อมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการร่วมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหมและแผนริเริ่มเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 และยุทธศาสตร์แกนกลางทางทะเลโลก ตลอดจนเอกสารความร่วมมืออื่นๆ ที่ครอบคลุมด้านต่างๆ เช่น วัคซีน การพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ความมั่นคงทางไซเบอร์ และมหาสมุทร [caption id="attachment_297641" align="aligncenter" width="900"] (แฟ้มภาพซินหัว : สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จัดการหารือร่วมกับโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ซึ่งเดินทางเยือนจีน ณ เรือนรับรองเตี้ยวอวี๋ไถ กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน วันที่ 26 ก.ค. 2022)[/caption][caption id="attachment_297642" align="aligncenter" width="900"] (แฟ้มภาพซินหัว : สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จัดการหารือร่วมกับโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ซึ่งเดินทางเยือนจีน ณ เรือนรับรองเตี้ยวอวี๋ไถ กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน วันที่ 26 ก.ค. 2022)[/caption]