MSCรุกพัฒนาซอฟต์แวร์5G รับอานิสงส์ธุรกิจไอทีขาขึ้น
ทันหุ้น –สู้โควิด –MSC ยุคทองไอทีขาขึ้น เร่งพัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่ต่อยอดธุรกิจ พร้อมเดินขยายยธุรกิจในกลุ่ม 5G และ IoT เชื่อมีโอกาสเติบโตสูง พร้อมนำออโต้เมชั่นเข้ามาเสริมทัพ คาดใช้งบลงทุน 30 ล้านบาท พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ แถมเปิดทางพันธมิตรร่วมทำธุรกิจ ศึกษาลงทุนสตาร์ตอัพด้านไอที ย้ำสถานะการเงินแข็งแกร่ง ส่วนปีนี้รักษารายได้ไม่ต่ำกว่าปีก่อน
นายกิตติ เตชะทวีกิจกุล รองประธานกรรมการ บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น มหาชน หรือ MSC เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจยังเดินหน้าได้ต่อเนื่อง เนื่องจากธุรกิจของบริษัทอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยี ทำให้ยังได้รับความสนใจจากลูกค้า และสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ความต้องการใช้เทคโลยีแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ขณะที่บริษัทยังเดินหน้าในการพัฒนาซอฟแวร์ที่เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทเอง เช่น ซอฟต์แวร์ CRM (การจัดการลูกค้าสัมพันธ์) เป็นต้น ซึ่งเป็นการต่อยอดCRM เดิม และพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมายิ่งขึ้น และจะนำไปเสนอลูกค้าต่อไป
*พัฒนาซอฟแวร์ใหม่
ทั้งนี้ปีนี้บริษัทเชื่อว่ารักษารายได้ใกล้เคียงปีก่อนที่มีรายได้ 7,476 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้แล้วกว่า 3,581 ล้านบาท โดยโครงสร้างรายได้ยังมาจาก 3 ส่วนหลัก คือ Hardware (ฮาร์ดแวร์), ซอฟต์แวร์ (Software), การพิมพ์ (Printing) รวมไปถึงงานบริการอื่นๆ อย่าง Digital Transformation & Application Modernize Services เป็นต้น แต่ปีนี้การเติบโตมากสุดจะเป็นเรื่องของ ซอฟต์แวร์ ที่มีความต้องการใช้งานเพิ่มมากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็มีลูกค้าบางอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบอย่างอุตสาหกรรมโรงแรม นอกจากนี้ได้นำระบบ Robotic Process Automation (RPA)เข้ามาใช้งานในบริษัทเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด และยังได้มีการนำเสนอลูกค้าด้วย
“ปีนี้ถือว่ายุคขาขึ้นของไอที เพราะมีการความต้องการใช้งานเทคโยโลยีเพิ่มขึ้นที่มาประยุกต์ใช้กับการทำงาน ทำให้ที่ผ่านมาบริษัทอาจจะได้รับผลกระทบไม่มาก แม้ว่าจะมีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบไปบ้างอย่างกลุ่มโรงแรม แต่ในด้านธุรกิจของบริษัทก็ถือว่ายังเดินหน้าต่อไปได้ และมีการพัฒนาบริการซอฟแวร์ใหม่เพื่อนำเสนอลูกค้าต่อไป” นายกิตติ กล่าว
*5G หนุนโต-หาพันธมิตร
ขณะเดียวกันบริษัทได้ตั้งทีมเพื่อเข้ามาศึกษาในเรื่องของการพัฒนาสินค้าและซอฟแวร์เพื่อรองรับการขยายตัวของกลุ่ม 5G และ Internet of Things (IoT) ขณะนี้ก็ได้เริ่มดำเนินการบ้างแล้ว และเริ่มมีการนำเสนอโครงการไปบ้าง โดยเบื้องต้นจะเริ่มที่ภาคธุรกิจก่อน อย่างไรก็ดีบริษัทเชื่อว่าการใช้งาน 5G จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ก็เป็นช่วงของการเปลี่ยนผ่านมาใช้ 5G มากขึ้น และเชื่อว่าบริษัทส่วนใหญ่ก็น่าจะการลงทุนใหม่ตลอดเวลาให้ทันแก่เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ปีละ 30 ล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาสินค้าและผลิตภัฑณ์ใหม่ รวมไปถึงซอฟแวร์ใหม่ๆ ด้วย
พร้อมกันนี้ยังเปิดโอกาสให้พันธมิตรเข้าลงทุน ซึ่งที่ผ่านมามีการเจรจาต่อเนื่อง แต่ปีนี้ติดในเรื่องของสถาการณ์โควิด-19 ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ ทำให้การเจรจาอาจจะล่าช้าไปบ้าง โดยบริษัทจะเน้นพัฒนมิตรที่มีความแข็งแกร่งในเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อมาต่อยอดธุรกิจและขยายตลาดร่วมกัน นอกจากนี้ยังสนใจที่จะลงทุนในสตาร์อัพที่เกี่ยวข้องกับไอที เพื่อต่อยอดการเติบโต ซึ่งในประเทศไทยถือว่ามีสตาร์อัพที่เกี่ยวข้องกับไอทีจำนวนมาก
อย่างไรก็ดีธุรกิจของบริษัทยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง บริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งมีความพร้อมกันในเข้าลงทุนเทคโลโลยีใหม่ และที่ผ่านมาเงินปันผลต่อผูถือหุ้นก็อยู่ในระดับที่ดี มีอัตราเงินปันผลราว 7-8%