รีเซต

นายกฯญี่ปุ่นโร่ขอโทษ เหตุส.ส.ทำงามหน้า แอบเที่ยวไนท์คลับ ทั้งๆที่รัฐบาลให้ปชช.เลี่ยงออกนอกบ้าน

นายกฯญี่ปุ่นโร่ขอโทษ เหตุส.ส.ทำงามหน้า แอบเที่ยวไนท์คลับ ทั้งๆที่รัฐบาลให้ปชช.เลี่ยงออกนอกบ้าน
มติชน
27 มกราคม 2564 ( 18:00 )
60
นายกฯญี่ปุ่นโร่ขอโทษ เหตุส.ส.ทำงามหน้า แอบเที่ยวไนท์คลับ ทั้งๆที่รัฐบาลให้ปชช.เลี่ยงออกนอกบ้าน

เมื่อวันที่ 27 มกราคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายโยชิฮิเดะ สึกะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น รีบออกโรงขอโทษขอโพย หลังสื่อแฉส.ส.ร่วมรัฐบาลย่องไปเที่ยวไนท์คลับ ทั้งๆที่รัฐบาลนายสึกะร้องขอความร่วมมือจากประชาชนให้หลีกเลี่ยงการออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านโดยไม่จำเป็น ทั้งนี้เพื่อไม่ให้สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เลวร้ายลง

 

“ผมเสียใจอย่างยิ่งที่เรื่องนี้เกิดขึ้นในขณะที่เรากำลังขอให้ประชาชนอย่าออกไปกินดื่มนอกบ้านหลัง 20.00 น. และหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็นหรือไม่มีความเร่งด่วนใดๆ” นายกรัฐมนตรีสึกะกล่าว และว่า ส.ส.แต่ละคนควรประพฤติตัวให้เป็นที่วางใจของประชาชน

 

ด้านนายจุน มัตสึโมโตะ ส.ส.พรรคเสรีประชาธิปไตย(แอลดีพี) ซึ่งเป็นหนึ่งในส.ส.ที่ตกเป็นข่าวฉาวกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าการกระทำของตนเองเป็นการไม่ระมัดระวัง ในขณะที่เราร้องขอให้ประชาชนอดทน โดยมีขึ้นหลังจากสื่อญี่ปุ่นรายงานว่านายมัตสสึโมโตะได้ไปเที่ยวไนท์คลับ 2 แห่งในย่านกินซ่า ในกรุงโตเกียว หลังจากไปรับประทานอาหารค่ำที่ร้านอาหารอิตาเลียนในคืนวันจันทร์(25 ม.ค.)ที่ผ่านมา

 

ขณะที่นายคิโยฮิโกะ โทยามะ ส.ส.จากพรรคโคเมอิโตะ พรรคร่วมรัฐบาล ได้ออกมาขอโทษประชาชนด้วย หลังหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ “ชูคันบุนชุน” รายงานว่านายโทยามะไปเที่ยวไนท์คลับชั้นสูงแห่งหนึ่งในย่านกินซ่าถึงดึกดื่นเมื่อคืนวันศุกร์(22 ม.ค.)ที่่ผ่านมา

 

พฤติกรรมที่ไม่สมควรของส.ส.ที่ตกเป็นข่าวฉาว สร้างความไม่พอใจให้กับชาวญี่ปุ่น ที่มีผู้ใช้ทวิตเตอร์แสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ โดยก่นด่าส.ส.เหล่านั้นว่าโง่เง่าและไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้แทนของประชาชนอีกต่อไป

 

ข่าวฉาวของส.ส.ร่วมรัฐบาลเป็นอีกเรื่องที่สร้างความปวดหัวให้กับนายสึกะ ที่มีความนิยมตกต่ำลงจากความไม่พอใจของประชาชนที่มีต่อการจัดการรับมือกับสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งถูกมองว่าเชื่องช้าและไม่สอดคล้องต่อเนื่อง

ทั้งนี้เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศภาวะฉุกเฉินขึ้นในกรุงโตเกียวและอีกหลายจังหวัดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีการบังคับใช้มาตรการคุมเข้มต่างๆ ที่รวมถึงการให้ร้านอาหารและบาร์ปิดให้บริการในเวลา 20.00 น. แม้ว่าจนถึงขณะนี้จะยังไม่มีการกำหนดบทลงโทษก็ตาม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง