รีเซต

"ส.ส.ภท." ลงพื้นที่ช่วยประชาชนสู้โควิด-19 วอนร่วมบริจาคแอลกอฮออล์ช่วยผู้ป่วย

"ส.ส.ภท." ลงพื้นที่ช่วยประชาชนสู้โควิด-19 วอนร่วมบริจาคแอลกอฮออล์ช่วยผู้ป่วย
มติชน
1 เมษายน 2563 ( 15:29 )
102
1
"ส.ส.ภท." ลงพื้นที่ช่วยประชาชนสู้โควิด-19 วอนร่วมบริจาคแอลกอฮออล์ช่วยผู้ป่วย
ส.ส.กุ๊ก ภูมิใจไทย – ดร.จุ๊บ เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร ลุยสู้โควิด-19 พร้อมช่วยเหลือ ปชช.และสนับสนุนอุปกรณ์ผู้ปฏิบัติภารกิจด่านหน้า ขณะที่วอนร่วมบริจาคแอลกอฮอล์ ช่วยเหลือผู้ป่วย
วันนี้ 1 เม.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ส.ส.กาญจนบุรี เขต 3 พรรคภูมิใจไทย พร้อมทีมงานได้ลงพื้นที่ไปแจกจ่ายแอลกอฮอล์ ให้กับส่วนราชการต่างๆ โรงพยาบาล รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องใกล้ชิดกับผู้คน และเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 ได้ ภายหลังจากการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งในพื้นที่ อ.ท่ามะกา และ อ.พนมทวน พบผู้ติดเชื้อ ขณะที่เจลแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์ และหน้ากากอนามัย มีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ขณะเดียวกันก็ได้ระดมฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในจุดพื้นที่เฝ้าระวังและพื้นที่จุดสำคัญๆ ทั้งนี้เพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ พร้อมให้ความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญในการป้องกันตนเอง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมด้วย

นายยศวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ในขณะนี้ถือว่าน่าเป็นห่วง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีปริมาณผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ดังนั้นตนในฐานะผู้แทนภาคประชาชนจึงขอความร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยลดการระบาด และที่สำคัญต้องมีการทำความสะอาดและฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคโควิด-19 ทั้งในอาคารบ้านเรือนและสำนักงานเพื่อสร้างความปลอดภัยและความสบายใจให้กับคนในครอบครัว รวมถึงพนักงาน เจ้าหน้าที่ของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน

ทั้งนี้ตนในฐานะผู้แทนประชาชนได้นำเงินเดือนที่ได้จากการเป็น ส.ส.และเงินส่วนตัวมาจัดทำสเปรย์แอลกอฮอล์ น้ำดื่ม และของใช้ที่จำเป็นเพื่อนนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนไปแล้วบางส่วนและยืนยันว่าจะดำเนินการให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
นอกจากนี้ตนยังได้รวบรวมเงินจากพี่น้องครอบครัว ‘มาไพศาลสิน’ และผู้มีจิตศรัทธา เบื้องต้นได้ยอดเงินรวมประมาณ 1 แสนบาท เพื่อจัดซื้อชุด PPE มอบให้แพทย์และพยาบาล โรงพยาบาลมะการักษ์ และโรงพยาบาลเจ้าคุณไพบูลย์พนมทวน ซึ่งใส่ปฏิบัติงานได้ชุดละครั้งเดียว โดยในแต่ละวันต้องใช้วันละหลายชุด นำกลับมาใช้อีกไม่ได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดซื้อ และคาดว่าจะนำไปมอบให้ผู้อำนวยการทั้งสองโรงพยาบาลประมาณได้วันจันทร์ที่ 6 เม.ย.ที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ตามหากพี่น้องประชาชนและผู้มีจิตศรัทธาต้องการร่วมทำบุญเพิ่มเติมสามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่ตน หรือสมทบทุนได้ที่บัญชีชื่อ ยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 1692314006

ขณะเดียวกัน ดร.วรสุดา สุขารมณ์ หรือ ดร.จุ๊บ เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร ที่ปรึกษาประธานมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ และที่ปรึกษาทีมเฉพาะกิจส่วนกลาง ได้มอบรถยนต์ตู้ให้กับมูลนิธิฯ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานพิเศษ ภายหลังจาก สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ จัดตั้งทีม SCOT (SPECIAL COVID OPERATION TEAM) เพื่อรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส COVID 19 จากบ้านส่งโรงพยาบาล ซึ่งมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ จังหวัดกาญจนบุรี ได้เป็น 1 ใน 100 ทีม เพื่อสนับสนุนภารกิจสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยมูลนิธิฯ ได้จัดเตรียมรถรับส่งผู้ป่วย (แยกรถออกจากรถรับผู้ป่วยปกติ) ไว้ จำนวน 5 คัน และเจ้าหน้าที่อบรมพิเศษที่จะปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ รวม 50 คน ซึ่งจะให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยทีมเจ้าหน้าที่จะแยกออกมาจากทีมรับส่งผู้บาดเจ็บ-ป่วยฉุกเฉิน ปกติ เพื่อทำภารกิจนี้โดยเฉพาะ โดยเริ่มปฏิบัติงานในวันนี้ (1 เม.ย.) เป็นวันแรก

พร้อมกันนี้ยังได้บริจาค Face Shield ให้กับแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา และมูลนิธิฯ เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งถือเป็นบุคลกรด่านหน้า และมอบเสื้อคลุมให้กับแผนกฉุกเฉิน โรงพยาบาลพหลฯ ไว้ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อความปลอดภัยของบุคลากรที่ปฏิบัติงานอีกจำนวนหนึ่งด้วย โดยเราจะจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานเพื่อสนับสนุนทุกฝ่ายในภารกิจต่อสู้ภัยโควิด19
โดย ดร.วรสุดา เปิดเผยว่า นอกจากการดำเนินการช่วยเหลือข้างต้นแล้ว ที่ผ่านมาตนได้ดำเนินการจัดทำแอลกอฮอล์เพื่อผู้ป่วยที่ต้องดูแลตัวเองที่บ้าน เช่น ผู้ป่วยที่ต้องฉีดยาตัวเองทุกวัน หรือผู้ป่วยที่ต้องล้างไตเอง ในอนาคตผู้ป่วยเหล่านี้จะขาดแอลกอฮอล์เพื่อใช้รักษาตนเอง ดังนั้นตนจึงอยากขอให้ประชาชนผู้มีจิตศรัทธา รวมทั้งผู้ประกอบการร่วมกันบริจาคแอลกอฮอล์ โดยสามารถติดต่อมาได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 094-998-5151 หรือที่ Line : 0949985151 หรือ Inbox เข้ามาที่ Facebook ‘ดร.วรสุดา สุขารมณ์’ เพื่อร่วมช่วยเหลือบุคคลกลุ่มนี้ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องใช้แอลกอฮอล์ในการรักษา

“ทั้งนี้เราอยู่บ้านเพื่อช่วยชาติ แต่มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ออกจากบ้านเพื่อช่วยเรา จึงขอเป็นกำลังใจให้กับทุกภาคส่วน ผู้นำชุมชน ทีมอาสาฯ และจิตอาสา รวมถึงพวกเราทุกคน ที่ร่วมกันต่อสู้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งวิกฤตครั้งนี้ความร่วมมือและการทำงานเป็นทีมที่พร้อมจะไปด้วยกันเป็นเรื่องสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญอีกอย่างไม่แพ้กัน คือการให้กำลังใจกับผู้ที่เสียสละ ตนจึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นกำลังใจให้กับทุกคน เพื่อเราจะผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน” ดร.วรสุดากล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง