WHO ประกาศโควิด-19 ยังเป็นภาวะฉุกเฉินระดับโลก
วันนี้ ( 20 ต.ค. 65 )คณะกรรมาธิการด้านภาวะฉุกเฉินของ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประกาศให้โควิด-19 เป็นภาวะฉุกเฉินระดับโลกครั้งแรกในวันที่ 30 มกราคม 2563 ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวสามารถช่วยเร่งให้มีการวิจัย, การระดมทุนและการหามาตรการด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เพื่อควบคุมการระบาดของโรค
WHO ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของสหประชาชาติ แถลงในช่วงไม่กี่เดือนว่า ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดกำลังลดลงในหลายพื้นที่ของโลก แต่หลายประเทศยังคงต้องเฝ้าระวัง และผลักดันให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงที่สุดเข้ารับการฉีดวัคซีน คณะกรรมาธิการฉุกเฉิน กล่าวว่า แม้ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตรายสัปดาห์จะลดลงอยู่ในระดับต่ำที่สุดตั้งแต่ไวรัสโควิดเริ่มระบาด แต่ยังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับไวรัสชนิดอื่น
นอกจากนี้ WHO บอกด้วยว่า จะระงับการฉีดวัคซีนมาตรฐาน 2 โดสสำหรับการป้องกันอหิวาตกโรคเป็นการชั่วคราว แต่ให้ฉีดโดสเดียว เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนวัคซีน และการระบาดของอหิวาต์ทั่วโลกกำลังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการตัดสินใจเป็นกรณีพิเศษนี้ สะท้อนถึงสถานะร้ายแรงของสำรองวัคซีนอหิวาตกโรค ในช่วงเวลาที่ประเทศต่าง ๆ เช่น เฮติ, ซีเรีย, มาลาวี กำลังต่อสู้กับการระบาดใหญ่ของโรคร้ายแรงนี้ ซึ่งแพร่กระจายผ่านการสัมผัสกับน้ำและอาหารที่มีการปนเปื้อน
จนถึงวันที่ 9 ตุลาคม เฮติยืนยันพบผู้ป่วยอหิวาตกโรคแล้ว 32 ราย และเสียชีวิต 18 ราย ขณะที่ยังมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากยังรอการยืนยัน
ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายสถานการณ์ฉุกเฉินของ WHO แถลงข่าวว่า การเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ เป็นสัญญาณแสดงให้เห็นถึง “ขนาดของวิกฤต” ซึ่งมีสาเหตุมาจากการไม่ให้ความสำคัญกับสุขอนามัยที่ปลอดภัยและการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับทุกคนที่มีความเสี่ยง
WHO ระบุว่า ยุทธศาสตร์ฉีดวัคซีนโดสเดียว ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีประสิทธิภาพในการตอบสนองต่อการระบาดของอหิวาตกโรค แม้ว่าระยะเวลาของการปกป้องจะมีจำกัด และดูเหมือนว่าจะน้อยกว่ามากในเด็ก
ข้อมูลจาก : องค์การอนามัยโลก
ภาพจาก : รอยเตอร์