ประวัติ พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้นำแผนยุทธบดินทร์ โต้กลับกัมพูชา

ประวัติ พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์
ผู้บัญชาการทหารบก–ผู้นำยุทธการปกป้องแผ่นดินปี 2568
พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ เป็นนายทหารอาวุโสของกองทัพบกไทย ผู้รับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกในปี 2567 และได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ในการปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” เมื่อเกิดสถานการณ์ลุกลามบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาในเดือนกรกฎาคม 2568 โดยถือเป็นหนึ่งในแม่ทัพแถวหน้าที่มีบทบาทสำคัญในการใช้กำลังผสม ทั้งภาคพื้นดินและอากาศ เพื่อตอบโต้การรุกรานและปกป้องอธิปไตยของชาติ
พื้นเพและครอบครัว
พลเอกพนาเกิดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2510 ที่ตำบลบ้านหม้อ อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เป็นบุตรชายคนโตของพลเอกปรีชา แคล้วปลอดทุกข์ อดีตที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก และคุณวงศ์พรรณ แคล้วปลอดทุกข์ เติบโตในครอบครัวทหารที่ยึดมั่นในระเบียบวินัยและความเสียสละ ซึ่งส่งผลให้เขามีแนวคิดแบบนักรบที่ไม่ยอมถอยให้กับภัยคุกคามใด ๆ
การศึกษาและพัฒนาทางทหาร
เขาจบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 26 และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 37 ก่อนจะเดินหน้าฝึกฝนผ่านหลักสูตรสำคัญทั้งในและต่างประเทศ อาทิ หลักสูตรส่งทางอากาศและการรบแบบจู่โจมในประเทศไทย, หลักสูตรกระโดดร่มระดับสูงจากสหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ สะสมประสบการณ์ด้านยุทธวิธีและภาวะผู้นำในสนามรบ
เส้นทางชีวิตราชการ
หลังจบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยฯ พลเอกพนาเริ่มต้นจากการเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ก่อนจะได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ และเติบโตสู่ตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 จากนั้นก้าวสู่ระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นรองเสนาธิการทหารบก แม่ทัพภาคที่ 1 และสุดท้ายได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการทหารบกในปี 2567
ผู้นำยุทธบดินทร์ บทบาทในวิกฤตชายแดน
ในปี 2568 เมื่อเกิดความตึงเครียดชายแดนกับกัมพูชา พลเอกพนาได้รับมอบอำนาจเต็มให้บัญชาการเหตุการณ์ตาม “แผนยุทธบดินทร์” ยุทธศาสตร์เฉพาะกิจที่อยู่ภายใต้กรอบแผนความมั่นคงแห่งชาติ “จักรพงษ์ภูวนาถ” โดยมีภารกิจสำคัญในการตอบโต้การรุกรานของฝ่ายตรงข้ามอย่างเด็ดขาด ทั้งในพื้นที่เขาพระวิหาร ช่องจอม ปราสาทตาควาย และเขตยุทธศาสตร์อื่น ๆ
ภายใต้คำขวัญ
“บดขยี้ทุกผู้ที่เหยียบย่ำแผ่นดินไทย เพื่อแผ่นดิน เพื่อประชาชน เพื่อศักดิ์ศรีประเทศ”
เขาสั่งการปฏิบัติการผสมผสานระหว่างทหารราบ รถถัง และเครื่องบินขับไล่ F-16 ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติการปกป้องอธิปไตยอย่างเป็นรูปธรรมและเฉียบขาดที่สุดในรอบหลายปี
เกียรติยศและรางวัล
ตลอดเส้นทางราชการ พลเอกพนาได้รับรางวัลเกียรติยศจักรดาวประจำปี 2568 และรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นจากโรงเรียนเสนาธิการทหารบกประจำปี 2567 เป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถและความเสียสละในการรับใช้ชาติ
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- เขาได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงหลายรายการ อาทิ
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 (ป.ช.)
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 (ป.ม.)
- เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 2 (ส.ช.)
- เหรียญราชการชายแดน (ช.ด.)
- เหรียญจักรมาลา (ร.จ.ม.)
ภาพลักษณ์และภาวะผู้นำ
พลเอกพนาได้รับการยอมรับจากสื่อและวงการทหารว่าเป็นผู้นำที่ “มืออาชีพ–ไม่ฝักใฝ่กลุ่มอำนาจ” มีบุคลิกสุขุม เข้มแข็ง และตัดสินใจอย่างเฉียบขาดในสถานการณ์วิกฤต นับเป็นตัวอย่างของผู้นำทหารในยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนกองทัพไทยไปสู่ภารกิจการปกป้องชาติอย่างมั่นคง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
