มติศาลรธน.เอกฉันท์ 9:0 "บิ๊กตู่" พักบ้านหลวงไม่ขัดรธน. นั่งนายกฯบริหารประเทศต่อ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 ธันวาคม ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย กรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (5) และมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 186 วรรคหนึ่ง และมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (3) หรือไม่ กรณีอยู่อาศัยในบ้านพักหลวงของกองทัพบก
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องแล้วตรวจสอบว่ามีประเด็นและข้อเท็จจริงที่จะวินิจฉัยได้ เห็นว่าเมื่อพิจารณาตามระเบียบของกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักบ้านพักทหาร พ.ศ.2555 ข้อ 5 พบว่าผู้มีคุณสมบัติจะพักอาศัยบ้านพักรับรองของกองทัพบก ผู้ถูกร้องเป็นนายกฯ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2557 และยังเป็น ผบ.ทบ.อยู่ เมื่อเกษียณอายุเมื่อวันที่ 30 ก.ย.2557 แต่ผู้ถูกร้องยังเป็นนายกฯอยู่ และยังเคยเป็นอดีต ผบ.ทบ. ถือเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติจึงยังสามารถพักอาศัยบ้านพักรับรองตามระเบียบของกองทัพบกได้
ดังนั้น ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องจึงไม่สิ้นสุดลงตามมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) และมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 186 วรรคหนึ่ง และมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (3)
ส่วนประเด็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้นำมาใช้กับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามมาตรา 170 (4) ประกอบมาตรา 160 (5) หรือไม่นั้น วินิจฉัยแล้วว่า ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องไม่สิ้นสุดตามมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (5) และมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5)ประกอบมาตรา 186 วรรคหนึ่ง และมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (3)
ทั้งนี้ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง ไม่ให้ตำแหน่งรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงเป็นการเฉพาะตัว