วิจัยพบภูมิคุ้มกันโควิด-19 'โอไมครอน' จากวัคซีน ลดฮวบใน 3 เดือน
ลอสแอนเจลิส, 20 ก.ค. (ซินหัว) -- ผลการศึกษาชิ้นใหม่ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร (19 ก.ค.) ระบุว่าแม้การฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดสกระตุ้นในผู้ใหญ่ จะกระตุ้นแอนติบอดีลบล้างฤทธิ์เชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอนในระดับสูง ทว่าระดับแอนติบอดีจะลดลงอย่างมากภายในสามเดือน
ผลการศึกษาดังกล่าว ซึ่งได้รับการเผยแพร่ผ่านวารสารเซลล์ รีพอร์ตส์ เมดิซีน (Cell Reports Medicine) มาจากการทดลองทางคลินิกที่สนับสนุนโดยสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ (NIAID)คณะนักวิจัยฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสกระตุ้นให้ผู้ใหญ่ในสหรัฐฯ ที่เคยได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชุดเบื้องต้นมาก่อน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทดลองทางคลินิกแบบ "ผสมผสานและจับคู่" ต่อมาจึงประเมินการตอบสนองของภูมิคุ้มกันเมื่อเวลาผ่านไป โดยทีมวิจัยพบว่าการฉีดวัคซีนร่วมกันเกือบทั้งหมดกระตุ้นแอนติบอดีลบล้างฤทธิ์เชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน สายพันธุ์ย่อยบีเอ.1 (BA.1) ในระดับสูงอย่างไรก็ดี การตอบสนองของภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน ในผู้ฉีดวัคซีนทุกกลุ่มลดลงเป็นอย่างมาก โดยระดับแอนติบอดีลบล้างฤทธิ์ลดลง 2.4-5.3 เท่าตัว ภายในสามเดือนหลังจากฉีดวัคซีนโดสกระตุ้นคณะนักวิจัยชี้ว่าการค้นพบนี้สอดคล้องกับรายงานข้อมูลในชีวิตจริงซึ่งพบการป้องกันการติดเชื้อไวรัสฯ ลดลงระหว่างการระบาดระลอกสายพันธุ์โอไมครอนในกลุ่มผู้ได้รับวัคซีนชุดเบื้องต้นร่วมกับวัคซีนโดสกระตุ้น