รีเซต

โทษหนัก! สหราชอาณาจักรคุมเข้มนักเดินทาง แหกกฎกักตัวเจอปรับหนัก-ติดคุกสูงสุด 10 ปี

โทษหนัก! สหราชอาณาจักรคุมเข้มนักเดินทาง แหกกฎกักตัวเจอปรับหนัก-ติดคุกสูงสุด 10 ปี
Xinhua
10 กุมภาพันธ์ 2564 ( 12:55 )
54
โทษหนัก! สหราชอาณาจักรคุมเข้มนักเดินทาง แหกกฎกักตัวเจอปรับหนัก-ติดคุกสูงสุด 10 ปี

ลอนดอน, 10 ก.พ. (ซินหัว) -- เมื่อวันอังคาร (9 ก.พ.) แมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร ประกาศบทลงโทษปรับเงินและจำคุกสูงสุด 10 ปี สำหรับผู้ฝ่าฝืนกฎระเบียบการกักตัวเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดกลายพันธุ์เข้าสู่ประเทศ

 

แฮนค็อกกล่าวต่อสมาชิกสภาล่างแห่งรัฐสภาสหราชอาณาจักรว่าผู้เดินทางมายังสหราชอาณาจักรที่ไม่กักตัวในโรงแรมที่กำหนดต้องชำระค่าปรับ 5,000-10,000 ปอนด์ (ราว 206,700-413,400 บาท) ส่วนผู้แจ้งข้อมูลเท็จเกี่ยวกับประวัติการพำนักในประเทศตาม "บัญชีแดง" อาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 10 ปีนอกจากนั้นตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. ผู้เดินทางเข้าสหราชอาณาจักรทุกคนต้องตรวจโรคโควิด-19 ในวันที่ 2 และวันที่ 8 ของการกักตัว โดยผู้มีผลตรวจโรคเป็นบวกต้องกักตัวต่ออีก 10 วัน นับจากวันตรวจโรค ซึ่งผู้ฝ่าฝืนกฎระเบียบข้อนี้ครั้งแรกจะต้องโทษปรับ 1,000 ปอนด์ (ราว 41,300 บาท) ส่วนครั้งที่สองต้องโทษปรับ 2,000 ปอนด์ (ราว 82,600 บาท)ขณะเดียวกันผู้เดินทางมาจาก "กลุ่มประเทศตามบัญชีแดง" ต้องชำระค่ากักตัวในโรงแรม ค่าเดินทางและการตรวจโรค จำนวน 1,750 ปอนด์ (ราว 72,300 บาท) เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ (15 ก.พ.) โดยรัฐบาลสหราชอาณาจักรจัดสรรห้องพักของโรงแรมเพื่อการกักตัวแล้ว 4,600 ห้อง ซึ่งจะเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตแฮนค็อกกล่าวย้ำว่าผู้กักตัวในโรงแรมจะต้อง "อยู่แต่ในห้องและไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมาอยู่ปะปนกับแขกคนอื่นๆ" โดยสหราชอาณาจักรจัดการรักษาความปลอดภัยเพื่อควบคุมผู้กักตัวปฏิบัติตามกฎระเบียบและให้ความช่วยเหลือตามความจำเป็น"เราต้องเสริมสร้างระบบป้องกันให้แข็งแกร่งกว่าเดิม การรับมือเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์เป็นภารกิจสำคัญยิ่ง" แฮนค็อกกล่าวก่อนหน้านี้สหราชอาณาจักรสั่งระงับการเข้าประเทศของผู้โดยสารที่ไม่ใช่สัญชาติสหราชอาณาจักรหรือไอร์แลนด์จาก "กลุ่มประเทศบัญชีแดง" ซึ่งเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ต่างๆ อันเป็นที่รู้จักแล้วมากกว่า 30 ประเทศ อาทิ แอฟริกาใต้ โปรตุเกส และกลุ่มประเทศอเมริกาใต้กฎระเบียบที่เข้มงวดยิ่งขึ้นนี้มาจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ โดยการทดลองหนึ่งพบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของออกซ์ฟอร์ด-แอสตราเซเนกา (Oxford-AstraZeneca) มีประสิทธิผลจำกัดในการป้องกันอาการป่วยเล็กน้อยและปานกลางจากเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ (8 ก.พ.) แฮนค็อกระบุว่ามีหลักฐานบ่งชี้วัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันมีประสิทธิผลต่อเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์อยู่บ้าง โดยเฉพาะการป้องกันอาการป่วยรุนแรงหรือการเสียชีวิต ดังนั้นโครงการฉีดวัคซีนจึงเป็น "ภารกิจสำคัญยิ่ง" ในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ ด้านกลุ่มผู้ผลิตวัคซีนพยายามพัฒนาวัคซีนที่มีศักยภาพต่อสู้กับเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์โดยเฉพาะ เพื่อยกระดับการคุ้มครองประชาชนสถิติจากทางการสหราชอาณาจักรเมื่อวันจันทร์ (8 ก.พ.) ระบุว่ามีการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 14,104 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 3,959,784 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 333 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตรวมอยู่ที่ 112,798 ราย ซึ่งนับเฉพาะผู้ป่วยที่เสียชีวิตภายใน 28 วันหลังมีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวกครั้งแรก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง