HTECHชี้ดีมานด์ฮาร์ดดิสก์สูง ดันกำลังผลิต-รายได้ตามเป้า

#HTECH #ทันหุ้น – HTECH ส่องแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2568 เติบโตต่อเนื่องจาก QoQ แม้ว่าไทยจะมีความเสี่ยงโดยภาษีสหรัฐฯ ที่ 36% แต่ธุรกิจHDD ยังมีความต้องการสูง โดยเฉพาะในธุรกิจ Data Center, Cloud และอุตสาหกรรมยานยนต์ ขณะที่ไม่ได้รับผลกระทบจากต้นทุนเรื่องวัตถุดิบจากเหล็กและลวดทองแดง มั่นใจผลงานทั้งปี 2568 เข้าเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 10%
นายพีท ริมชลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิต รับจ้างผลิตและจำหน่ายเครื่องมือตัดเฉือนโลหะ สำหรับใช้ในการผลิตชิ้นงานที่มีความเที่ยงตรงสูง เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2568 เติบโตขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) เนื่องจากลูกค้ายังคงรอติดตามสถานการณ์เรื่องภาษีนำเข้าของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐ
แต่ทั้งนี้ธุรกิจอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล หรือ Hard Disk Drive (HDD)เป็นส่วนประกอบที่มีความจำเป็นสูง และไทยแหล่งผลิตรายใหญ่ ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการทำ Hard Disk ส่วนใหญ่มาจากบริษัท โดยปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิต 3 แห่ง ในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม และประเทศสหรัฐอเมริกา และมีบริษัทย่อยที่เป็นตัวแทนจำหน่ายใน 7 ประเทศทั่วโลก ได้แก่ ไทย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, มาเลเซีย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย และสหรัฐอเมริกา
@มั่นผลงานเข้าเป้า
อีกทั้งบริษัทได้ส่งเครื่องมือตัด (Cutting Tool) ไปยังสหรัฐ เป็นจำนวนน้อย โดยส่งเพื่อขายให้ลูกค้าที่ผลิตชิ้นส่วน HDDซึ่งลูกค้าอาจนำสินค้าขายต่อให้สหรัฐ อีกที รวมถึงบริษัทจะส่ง Cutting Tools ไปให้กับบริษัทที่ผลิตชิ้นส่วนเพื่อนำไปใช้งานในระบบฐานข้อมูล (Database)
ซึ่ง Database ทั้งหมดต้องใช้ฮาร์ดดิสก์ รวมถึง AI โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มชิ้นส่วนระบบระบายความร้อน (CDU)ยังมีความต้องการสูง ที่จะมาเสริมฮาร์ดดิสก์ เพื่อให้ระบบ Server มีประสิทธิภาพมากขึ้นดังนั้นซัพพลายเชน (Supply Chain) ของธุรกิจจึงยังคงไปได้ดี แม้จะอยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดี ดังนั้นจึงมั่นใจผลประกอบการปี 2568 ยังเป็นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%
@ดีมานด์ Hard Disk สูง
ขณะที่ไทยจะมีความเสี่ยงโดนภาษีที่ 36% แต่ความต้องการ Hard Disk ในส่วนของ Cloud และ Data Server ยังคงมีความต้องการอย่างรุนแรง ซึ่งกลุ่มลูกค้า Data Center ที่ใช้ Hard Disk จำนวนมาก และกำลังมองหาฐานผลิตใหม่ให้ใกล้กับลูกค้ามากที่สุด หรือก็คือ บริเวณเอเชีย โดยการส่งสินค้าในกลุ่มประเทศเอเชียด้วยกันนั้นเป็นเขตการค้าเสรี (Free Trade) และไม่มีผลกระทบจากภาษีของสหรัฐ
รวมถึงยังมีความต้องการในอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้ง EV และเครื่องยนต์สันดาป แต่การใช้ใน EVยังมีน้อยมากเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์สันดาปภายใน (IC) แม้ว่ากระแสรถยนต์ EV จะมาแรงแต่เชื่อว่ารถยนต์สันสาปยังเป็นที่ต้องการอยู่ อีกทั้งยังสามารถต่อยอดเข้าไปในธุรกิจอื่นๆ ได้อีก เช่น โดรน ที่มีความต้องการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นในสงคราม การเกษตร หรือการศึกษา
อย่างไรก็ดีบริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐ ขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากทั่วโลก รวมถึงลวดทองแดง เป็น 50% จากต้นทุนที่สูงขึ้น เนื่องจากบริษัทไม่ได้ใช้วัตถุดิบเหล่านี้ในการผลิตเครื่องมือ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
