รีเซต

'ซีที สแกน' เผยความจริงจาก 'มัมมี่' ชี้ 'ฟาโรห์ผู้กล้า' สิ้นพระชนม์ในสมรภูมิรบ

'ซีที สแกน' เผยความจริงจาก 'มัมมี่' ชี้ 'ฟาโรห์ผู้กล้า' สิ้นพระชนม์ในสมรภูมิรบ
Xinhua
18 กุมภาพันธ์ 2564 ( 21:07 )
216
'ซีที สแกน' เผยความจริงจาก 'มัมมี่' ชี้ 'ฟาโรห์ผู้กล้า' สิ้นพระชนม์ในสมรภูมิรบ

ไคโร, 18 ก.พ. (ซินหัว) -- เมื่อวันพุธ (17 ก.พ.) กระทรวงการท่องเที่ยวและโบราณวัตถุของอียิปต์แถลงว่า นักวิจัยชาวอียิปต์สองคนได้ทำการซีที สแกน หรือ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) มัมมี่ของฟาโรห์เซเคเนนเร ทาโอ ที่ 2 (Seqenenre Taa II) แห่งอียิปต์โบราณ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพระองค์ถูกสังหารระหว่างการต่อสู้กับกลุ่มผู้รุกรานอียิปต์เมื่อช่วง 16 ปีก่อนคริสต์ศักราช

 

"พระองค์ถูกปลงพระชนม์ระหว่างการต่อสู้เพื่อรวมแผ่นดินอียิปต์อีกครั้ง" แถลงการณ์ของกระทรวงระบุเพิ่มเติมว่าผู้ฝังศพได้ซ่อนบาดแผลบริเวณพระเศียรของพระองค์ไว้อย่างชำนาญซาฮี ฮาวาสส์ (Zahi Hawass) นักโบราณคดีชื่อดังชาวอียิปต์และอดีตรัฐมนตรีกระทรวงโบราณวัตถุ และ ซาฮาร์ ซาลีม (Sahar Saleem) ศาสตราจารย์ด้านรังสีวิทยา ประจำคณะแพทยศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยไคโร เป็นสองนักวิจัยที่ทำการตรวจสอบดังกล่าวฟาโรห์พระองค์นี้ปกครองอียิปต์ตอนใต้ในช่วงที่พวกฮิกโซส (Hyksos) ซึ่งเป็น ชนเผ่าเรเร่อนต่างชาติกำลังเรืองอำนาจในอียิปต์ โดยพวกฮิกโซสยึดครองสามเหลี่ยมปากแม่น้ำทางตอนเหนือของอียิปต์ได้นานถึงราว 1 ศตวรรษ ตั้งแต่ 1650 ปี ถึง 1550 ปีก่อนคริสตกาลมัมมี่ของฟาโรห์เซเคเนนเร ทาโอ ที่ 2 ถูกค้นพบในปี 1881 และได้รับการเอกซเรย์เพื่อตรวจสอบช่วงทศวรรษ 1960

 

บางคนเชื่อว่าสาเหตุที่พระองค์ถูกสังหารในการสู้รบอาจเป็นเพราะน้ำมือของพวกฮิกโซส ขณะที่คนอื่นๆ ระบุว่า พระองค์อาจถูกลอบปลงพระชนม์ในห้องพระบรรทมโดยกลุ่มผู้สมคบคิดเนื่องจากมัมมี่ดังกล่าวมีสภาพย่ำแย่ จนมีบางคนแสดงความเห็นว่าอาจเป็นเพราะการทำมัมมี่ตัวนี้เกิดขึ้นด้วยความรีบร้อนใน พื้นที่อันห่างไกลจากสถานที่ทำมัมมี่ของราชวงศ์ 

 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ได้จากซีทีสแกนล่าสุดนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า "มีการใช้วิธีการที่ซับซ้อนเพื่อซ่อนบาดแผลบนพระเศียรของฟาโรห์ ซึ่งเป็นวิธีที่คล้ายคลึงกับการอุดฟันในการศัลยกรรมตกแต่งสมัยใหม่ ซึ่งหมายความว่าการทำมัมมี่นั้นเกิดขึ้นจริงในสถานที่ทำมัมมี่ของราชวงศ์"

 

ฮาวาสส์ และ ซาลีม ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ได้นำเสนอคำอธิบายใหม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อนและหลังการสิ้นพระชนม์ของฟาโรห์เซเคเนนเร ทาโอ ที่ 2 ด้วยภาพจากซีทีสแกนแบบ 2 และ 3 มิติ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าพระองค์อาจถูกจับกุมในสนามรบ และถูกมัดพระหัตถ์ไพล่พระขนอง (หลัง) เพื่อไม่ให้พระองค์ขัดขืนได้ผู้เชี่ยวชาญชาวอียิปต์สองคนยังยืนยันว่าบาดแผลที่พระเศียรของพระองค์มีร่องรอยต่างๆ ที่พอดีกับอาวุธของพวกฮิกโซส (Hyksos) ที่ถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์อียิปต์ในกรุงไคโร อันรวมถึงขวาน หอก และมีดสั้นหลายเล่มแถลงการณ์ระบุว่า "ผลการศึกษายืนยันว่าฟาโรห์เซเคเนนเร ทาโอ ที่ 2 สิ้นพระชนม์จากการถูกกลุ่มนักรบของฮิกโซสโจมตีหลายครั้งในองศาการโจมตีที่แตกต่างกัน ซึ่งพิสูจน์ได้ว่ากษัตริย์ผู้กล้าถูกสังหารในแนวหน้าของการรบขณะเสี่ยงพระชนม์ชีพร่วมกับเหล่าทหารเพื่อปลดปล่อยอียิปต์ หาใช่การสิ้นพระชนม์ในพิธีสำเร็จโทษ"

เมื่อพิจารณาจากรูปร่างของกระดูกแล้ว ข้อมูลจากซีทีสแกนชี้ให้เห็นว่า พระองค์ถูกปลงพระชนม์ในวัย 40 พรรษาแถลงการณ์เผยให้เห็นมุมมองใหม่ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของอียิปต์ที่ได้จากการศึกษาว่า "การเสียชีวิตของฟาโรห์เซเคเนนเร ทาโอ ที่ 2 เป็นแรงกระตุ้นให้ผู้สืบราชสมบัติของพระองค์ มุ่งมั่นต่อสู้เพื่อรวมอียิปต์และก่อตั้งอาณาจักรใหม่ต่อไป"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง