รีเซต

ปักธงแดง! ระดับน้ำใน แม่น้ำจันทบุรี เข้าขั้นวิกฤต พื้นที่ต่ำให้ขนของขึ้นที่สูง

ปักธงแดง! ระดับน้ำใน แม่น้ำจันทบุรี เข้าขั้นวิกฤต พื้นที่ต่ำให้ขนของขึ้นที่สูง
TNN ช่อง16
29 กรกฎาคม 2567 ( 07:05 )
26

เพจเฟซบุ๊ก  สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี แจ้งเปลี่ยนธง เหลือง เป็นธงแดง เพื่อแจ้งเตือนระดับภายหลังระดับน้ำในแม่น้ำจันทบุรี อยู่ในเกณฑ์วิกฤตเริ่มล้นตลิ่งให้เฝ้าระวังสูงสุด พื้นที่ต่ำให้เคลื่อนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูงและระวังภัยอันเกิดจากน้ำ พร้อมแจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันพื้นที่ลุ่มต่ำเส้นทางน้ำ ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองจันทบุรี บริเวณริมแม่น้ำจันทบุรี 



ขณะที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM รายงาน จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำลำคลองเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ. มะขาม และ อ. เมืองจันทบุรี ซึ่งศูนย์ ปภ. เขต 17 จันทบุรี ได้จัดเจ้าหน้าที่พร้อมรถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย  รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว และเครื่องสูบน้ำ เพื่อสนับสนุนการเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ดังนี้


-อำเภอมะขาม ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ จำนวน 10 คน พร้อมสนับสนุนรถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย จำนวน 2 คัน และรถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว จำนวน 1 คัน ออกตรวจติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ หมู่ 8 ต.ปัถวี และหมู่ 4 ต.นาไทร อ.มะขาม จ.จันทบุรี และจัดเจ้าหน้าที่อยู่เวรเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ได้ร่วมกับเทศบาลตำบลปัถวีในการส่งเจ้าหน้าที่และรถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยเข้าช่วยเหลือประชาชน แจกจ่ายอาหารและน้ำดื่มในพื้นที่บ้านทุ่งบอน หมู่ 1 ต.ปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี


-อำเภอเมืองจันทบุรี ศูนย์ ปภ.เขต 7 จันทบุรี ส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและติดตั้งเครื่องสูบน้ำในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและมีน้ำขังเพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็ว โดยทำการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 2 จุด บริเวณตลาดเจริญสุข อ.เมืองจันทบุรี และบ้านมั่นคง อ.เมืองจันทบุรี 


ในการนี้ ปภ. ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างทันท่วงที 

ท้ายนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป


ข่าวที่เกี่ยวข้อง