'สมศักดิ์' สั่งประสาน 'ชัชชาติ' ขอนักโทษลอกท่อกทม. แฉคนเก่าไม่เอา ลุ้นลดค่าตั๋วสายสีเขียว
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ ระหว่างเดินสำรวจพื้นที่บริเวณสี่แยกลำสาลี เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาเรื่องการจราจรติดขัดจากการสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีส้ม ถึงจุดยืนการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่า ยังไม่เห็นข้อมูล ต้องมาดูว่าการรับโอนหนี้จากรัฐส่วนกลางมามีกระบวนการครบถ้วนแล้วหรือไม่ ต้องผ่านที่ประชุมสภา กทม. เพราะเป็นหนี้ก้อนใหญ่ ผู้ว่าฯกทม.ไม่มีอำนาจทำได้ ต่อมาสัญญาจ้างเดินรถเป็นการจ้างระยะยาว ไม่ได้ผ่านกระบวนการตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 (พ.ร.บ.ร่วมทุน) ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ อีกทั้งการต่อสัญญาสัมปทานก็ไม่ได้ผ่าน พ.ร.บ.ร่วมทุนอีกเช่นกัน
“เราไม่ได้ค้านการต่อสัญญาสัมปทาน แต่คิดว่าต้องผ่านกระบวนการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน เพราะว่าจะมีการพิจารณาละเอียดถี่ถ้วน มีการแข่งขันกันของเอกชน อีกทั้งการถกเถียงเรื่องค่าโดยสาร 65 บาท เราไม่รู้ว่ามีตัวเลขมาจากไหน” นายชัชชาติกล่าว
นายชัชชาติกล่าวว่า โครงการที่ถึงตามวงเงิน ต้องเข้ากระบวนการ พ.ร.บ.ร่วมทุน เป็นหลักการโดยรวมของประเทศ จึงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีการยกเว้นสำหรับรถไฟฟ้าสายสีเขียว แล้วในอนาคตโครงการอื่นๆ จะสามารถทำข้ามหลักการตรงนี้ได้หรือไม่ เพราะเชื่อมั่นว่ายิ่งมีการแข่งขัน มีการช่วยตรวจสอบจากหลายฝ่าย จะเกิดความโปร่งใส
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการลดราคารถไฟฟ้าสายสีเขียว นายชัชชาติกล่าวว่า ปัจจุบันราคารถไฟฟ้าตามสัญญาสัมปทานเดิมเก็บ 44 บาท ส่วนต่อขยาย กทม.รับผิดชอบอีก 15 บาท ต้องไปดูว่ามีการปรับได้มากน้อยเพียงใด ภายในปี พ.ศ.2572 ต้องไปดูว่ามีผลการดำเนินงานกำไรหรือขาดทุน ถ้ากำไรก็สามารถเก็บราคาน้อยลงกว่านี้ได้ ตามหลักการต้องลดราคาให้กับประชาชน แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นตัวเลขผลการดำเนินงานการจ้างเดินรถในส่วนต่อขยาย
ที่ กระทรวงยุติธรรม มีการประชุมผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยผู้บริหารและข้าราชการร่วมประชุม วาระพิจารณาเรื่อง การส่งนักโทษเด็ดขาดออกไปทำงานสาธารณะ หรือทำงานอื่นใดเพื่อประโยชน์ของทางราชการนอกเรือนจำ
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ตนเห็นการเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม. เพิ่งผ่านพ้นไป ผู้ว่าฯคนใหม่ที่ได้รับเลือกจากประชาชนเป็นคนเปิดกว้าง ตนจึงอยากให้กรมราชทัณฑ์ติดต่อผู้ว่าฯคนใหม่ ให้เราเสนอตัวเข้าไปทำงานบริการประชาชน เป็นงานให้ผู้ต้องขังมีทักษะเพิ่มขึ้น ได้รับค่าแรงด้วยเชื่อว่าผู้ว่าฯคนใหม่น่าจะสนใจในจุดนี้ เนื่องจากขณะนี้พื้นที่ กทม.มีผลกระทบช่วงฝนจะตก หากเราเสนอไปจะรับงานได้เต็มที่ เช่น การช่วยลอกท่อระบายน้ำ ขอให้กรมราชทัณฑ์ทำหนังสือนำไปก่อน เราอาจจะทำราคามาตรฐานของราชทัณฑ์ ตนคิดว่าเป็นไปได้
“ผมพยายามสร้างโอกาสให้กับผู้ต้องขังได้มีงานทำ และเป็นงานบริการช่วยสังคม ที่ผ่านมาผมพยายามสร้างความแตกต่าง พยายามช่วยคนเมืองกรุง แต่ผู้ว่าฯคนเก่าไม่ยอม ผมหวังว่าผู้ว่าฯคนใหม่นี้เป็นคนเปิดกว้าง น่าจะให้โอกาสพวกเราได้ช่วยสังคม ช่วยให้คนของเรามีงานทำ กรมราชทัณฑ์ลองให้ฝ่ายกฎหมายดูเรื่องการทำหนังสือ ขอให้รีบทำ หากเรารีบเสนอให้เร็ว อย่างน้อยเมื่อมีการเปิดประชุมสภา กทม.สัปดาห์หน้า พวกเขาจะได้เห็นและพิจารณาได้เลย น่าจะเป็นเรื่องที่ดี” นายสมศักดิ์กล่าว