กรมวิทย์ฯ-ม.อ.พัฒนาการตรวจ "โควิด-19" แบบรวมตัวอย่าง ชี้ประหยัด-รู้สถานการณ์โรค
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จับมือ คณะแพทยศาสตร์ ม.อ.พัฒนาวิธีตรวจโควิด-19 ทางห้องปฏิบัติการแบบรวมตัวอย่าง เผยลดค่าใช้จ่ายในการสำรวจสถานการณ์โรคได้ ล่าสุดอยู่ระหว่างยื่นขออนุมัติจริยธรรมการวิจัยในคน
โควิด-19 เมื่อวันที่ 7 เมษายน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ได้ร่วมกันศึกษาวิจัยการตรวจโควิด-19 ทางห้องปฏิบัติการแบบรวมตัวอย่าง (pooled sample testing) สำหรับการประเมินความชุกของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ในกลุ่มตัวอย่างที่มีความชุกของการติดเชื้อต่ำ เช่น การสำรวจความชุกในบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ที่ยังไม่มีการระบาดกว้างขวาง การสำรวจความชุกในกลุ่มนักเรียน การสำรวจความชุกในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ การสำรวจความชุกก่อนการยกเลิกมาตรการด้านสังคม
“การตรวจแบบรวมตัวอย่าง เคยมีการศึกษามาแล้วในประเทศอิสราเอล โดยมีการนำวิธีการตรวจทางห้องปฏิบัติการแบบรวมตัวอย่างมาใช้ สามารถนำตัวอย่าง 64 ราย มาตรวจรวมกันในครั้งเดียว ซึ่งวิธีนี้แม้จะลดต้นทุนในการตรวจคัดกรองการติดเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ที่ทำให้เกิดโควิด-19” นพ.โอภาส กล่าว
อย่างไรก็ตาม นพ.โอภาส กล่าวว่า แต่การศึกษาในประเทศอิสราเอลนั้น ยังมีจุดอ่อนที่ต้องปรับปรุงเพื่อให้เหมาะสมกับประเทศไทย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และ ม.อ. จึงร่วมกันวิจัยและพัฒนา เพื่อที่จะได้วิธีการทางระบาดวิทยาและวิธีตรวจทางห้องปฏิบัติการแบบรวมตัวอย่างที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย ภายใน 3 เดือน ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นโครงการวิจัยเพื่อขอพิจารณาอนุมัติจริยธรรมการวิจัยในคน
ด้าน ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ คณะแพทยศาสตร์ ม.อ. กล่าวว่า แนวคิดเรื่องนี้มีมานานแล้ว คาดว่าจะเหมาะสมมากสำหรับการตรวจยืนยันที่มีความไวสูงอย่าง RT-PCR ที่ใช้กันอยู่
“สำหรับข้อดีของการตรวจแบบ pooled sample คือ ลดค่าใช้จ่ายในการตรวจลงได้หลายเท่า และเสียค่าใช้จ่ายทางห้องปฏิบัติการน้อยลง ถ้าตรวจแล้วได้ผลลบ ก็บ่งบอกว่าโอกาสติดเชื้อในกลุ่มตัวอย่างต่ำมาก ถ้าได้ผลบวกค่อยมาทำการตรวจเพิ่มเติม สิ่งที่จะศึกษานี้คือ ทดลองหา pool size หรือจำนวนตัวอย่างต่อกลุ่มที่เหมาะสมสำหรับการตรวจทางห้องปฏิบัติการแบบรวมตัวอย่างในสังคมไทยทั่วไป ในช่วงเวลาต่างๆ กัน” ศ.นพ.วีระศักดิ์ กล่าว