"พรรคสามัญชน" ยื่นหนังสือขอฝ่ายค้าน จี้ รบ.ยุติ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เหตุใช้อำนาจเกินจำเป็น
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน- เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 25 พฤษภาคม นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ หัวหน้าพรรคสามัญชน ยื่นหนังสือต่อนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เพื่อขอให้ยุติการประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 โดยระบุว่า ตามที่รัฐบาลกำลังจะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 ในเดือนมิถุนายนนี้ เป็นเดือนที่ 3 นั้น พรรคสามัญชนเห็นว่า เป็นการประกาศใช้ที่เกินความจำเป็นไปกว่าระบบกฎหมายและกลไกการเมืองและราชการปกติที่มีอยู่ ที่สามารถควบคุมโรคนี้ได้ดีกว่าการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้ทำให้เกิดการใช้อำนาจที่เกินไปกว่าการควบคุมโรค ด้วยการละเมิดและลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของประชาชนมากเกินควร โดยเฉพาะสิทธิและเสรีภาพในการเคลื่อนไหว เพื่อแสดงความคิดเห็น และชุมนุมเรียกร้อง ประท้วง ขัดขืน คัคค้าน หรือการแสดงออกอื่นใดก็ตามที่ไม่เห็นด้วยกับการพัฒนา นโยบาย กฎหมายหรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา
“ดังเช่น ที่ปรากฏการกระทำเกินกว่าเหตุจากเจ้าหน้าที่รัฐที่อ้าง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ข่มขู่จะจับกุมคุมขังประชาชน ไม่ให้ทำการชุมนุมสาธารณะในหลายกรณีทั่วทุกภูมิภาค ทั้งๆ ที่ประชาชนในพื้นที่เหล่านั้นมิได้ละเลยมาตรการรักษาความปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยการเว้นระยะห่างทางสังคม ใช้หน้ากากอนามัยและใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือฆ่าเชื้อโรคก่อนเข้าร่วมการชุนุม ก็ยังมิวายโดนข่มขู่คุกคามจะจับกุมคุมขังโดย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากสิทธิและเสรีภาพการชุมนุมถือเป็นหลักการและองค์ประกอบสำคัญของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน อันมีประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคี” นายเลิศศักดิ์ กล่าว
นอกจากนี้ นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลต้องทำในสถานการณ์โควิด-19 คือ “รักษาชีวิตกับสิทธิและเสภาพ” ควบคู่ไปด้วยกัน โดยที่มาตรการล็อกดาวน์ การกักกัน รวมถึงมาตรการอื่นๆ เพื่อควบคุมและต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ควรดำเนินการควบคู่ไปกับมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเข้มแข็ง ไม่ใช่ละเว้น พรรคสามัญชนจึงได้ทำหนังสือฉบับนี้ถึงคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝายค้าน เพื่อขอความอนุเคราะห์ ให้ช่วยกันผลักดันรัฐบาล ให้ยุติการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 ในเดือนมิถุนายนนี้ เป็นเดือนที่ 3 ได้แล้ว
ด้าน นายสุทิน กล่าวว่า ข้อพิจารณาดังกล่าว เป็นแนวทางความคิดที่สอดคล้องกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอยู่แล้ว โดยเห็นว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นมาตรการที่เกินความจำเป็น เราได้แต่หวังว่าการแสดงออกและข้อเสนอที่ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบอย่างชัดเจนในวันนี้ รัฐบาลจะรับฟังและนำไปพิจารณา แม้ว่าตอนนี้ท่าทีของรัฐบาลจะยังเพิกเฉยทั้งยังคงต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งยังให้เหตุผลในการต่อ พ.ร.ก.น้อยกว่าครั้งแรกจนแทบจะนับว่าไม่มีเหตุผลเลยก็ตาม นับเป็นความเลวร้ายที่หนักหนา โดยจากนี้จะร่วมมือกันผลักดันข้อเสนอดังกล่าวอย่างเต็มที่ต่อไป