รีเซต

เช็กเงิน! "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565" บัตรคนจน เพิ่มเงิน 600 บาท นาน 3 เดือน มีเงื่อนไขอะไรบ้าง?

เช็กเงิน! "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565" บัตรคนจน เพิ่มเงิน 600 บาท นาน 3 เดือน มีเงื่อนไขอะไรบ้าง?
Ingonn
25 มกราคม 2565 ( 12:12 )
22.8K
2
เช็กเงิน! "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565" บัตรคนจน เพิ่มเงิน 600 บาท นาน 3 เดือน มีเงื่อนไขอะไรบ้าง?

เช็กเงิน "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" หรือ "บัตรคนจน" เพิ่มเงินกำลังซื้อแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เฟส 4 อีกเดือนละ 200 บาท/คน เป็นเวลา 3 เดือน รวมเป็น 600 บาท เริ่มเดือน 1 ก.พ. 65 ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอรับเงินเยียวยา เงินช่วยเหลือ ได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป

 

กระทรวงการคลังระบุว่า โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มี "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ระยะที่ 4 ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านธงฟ้าฯ) และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2565 (กรณีมีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป) รวมทั้งสิ้น 600 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ เป็นวงเงินรวม 8,071 ล้านบาท ให้แก่ผู้มีบัตรฯ จำนวนไม่เกิน 13.45 ล้านคน โดยจะใช้ฐานข้อมูล ณ วันที่ 25 มกราคม 2565

 

"บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ-บัตรคนจน" เพิ่มเงิน 600 บาท โอนวันไหน

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 65 

  • เติมเงินวงเงินซื้อสินค้า กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ได้รับ 300 บาท/เดือน และ ได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมทั้งสิ้น 500 บาท
     
  • กลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท ได้รับ 200 บาท/เดือน และ ได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมทั้งสิ้น 400 บาท

 

วันที่ 1 มี.ค.65

  • เติมเงินวงเงินซื้อสินค้า กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ได้รับ 300 บาท/เดือน และ ได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมทั้งสิ้น 500 บาท
  • กลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท ได้รับ 200 บาท/เดือน และ ได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมทั้งสิ้น 400 บาท

 

วันที่ 1 เม.ย.65

  • เติมเงินวงเงินซื้อสินค้า กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ได้รับ 300 บาท/เดือน และ ได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมทั้งสิ้น 500 บาท
     
  • กลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท ได้รับ 200 บาท/เดือน และ ได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมทั้งสิ้น 400 บาท

 

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนกุมภาพันธ์ 2565 โอนเงินวันไหนบ้าง

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565

เงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เข้าไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป ได้แก่

- เติมเงินวงเงินซื้อสินค้า กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ได้รับ 300 บาท/เดือน และ ได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมทั้งสิ้น 500 บาท
 กลุ่มที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท ได้รับ 200 บาท/เดือน และ ได้รับเพิ่มอีก 200 บาท รวมทั้งสิ้น 400 บาท

- ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน 

- ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย 

  • ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
  • ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน
  • ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ขสมก./ MRT/ BTS และ ARL 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)

 

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565

เงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เข้าสามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้ ได้แก่

  • เงินคืนค่าไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน

  • เงินคืนค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรฯ เป็นผู้ชำระเอง

 

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565

เงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เข้าสามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้ ได้แก่

  • มีบัตรประจำตัวคนพิการ ได้รับเบี้ยความพิการ (บัญชีธนาคาร/อปท.) จำนวน 800 บาท
  • เบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน โอนเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถึงเดือนกันยายน 2565 จาก รวมเป็นเงิน 1,000 บาท
  • เบี้ยความพิการโครงการเราชนะ สำหรับผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน ผ่านบัตรประชาชน เช่นผู้ป่วยติดเตียง พิการ ผู้ป่วยสูงอายุด  จำนวน 200 บาท (เป็นระยเวลา 3 เดือน เริ่มเดือนก.พ.-เม.ย.)

 

นอกจากนั้นยัง มีโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 2 ช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าฯ และค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจากร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 จำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 30 เมษายน 2565 (กรณีมีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป) รวมทั้งสิ้น 600 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ เป็นวงเงินรวม 1,352 ล้านบาท

 

ให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือตามโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ ผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถเดินทางไปลงทะเบียนหรือเดินทางไปใช้จ่ายวงเงินที่ได้รับผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้) ผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองไม่สำเร็จเนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้อง เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับสิทธิตามโครงการเราชนะ กลุ่ม 4 จำนวนไม่เกิน 2.25 ล้านคน

 

 

 

ข้อมูลจาก สถานีข่าวกระทรวงการคลัง : Ministry of Finance News Station

 

 

 

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม.

คลิกเลย >>> TrueID Community <<<

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง