รีเซต

หุ้นUS ฟื้น ทรัมป์ยืดหยุ่นแผนภาษี Meituan กำไร Q4/67 โตแข็งแกร่ง

หุ้นUS ฟื้น ทรัมป์ยืดหยุ่นแผนภาษี Meituan กำไร Q4/67 โตแข็งแกร่ง
ทันหุ้น
24 มีนาคม 2568 ( 15:00 )
12

 

#หุ้นต่างประเทศ #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.เอเซียพลัส

.

ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกในวันศุกร์ (S&P500 +0.08%, Dow Jones +0.08% และ Nasdaq +0.52%) โดยตลาดมีการฟื้นตัวหลังจากที่ติดลบในช่วงแรกหลังได้แรงหนุนจากการที่ Donald Trump ส่งสัญญาณยืดหยุ่นแผนเก็บภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) นอกจากนี้ ตลาดยังได้ แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของกลุ่มเทคโนโลยี นำโดย Tesla +5.27%, Apple +1.95% และ Meta Platforms +1.75%

.

Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่าจะมีการใช้ความยืดหยุ่นต่อแผนเรียกเก็บภาษี ตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งได้กล่าวว่า “มีคนมาหาผมและ พูดคุยเกี่ยวกับประเด็นภาษีนี้ และมีหลายคนขอร้องให้ยกเว้นภาษีได้ไหม ซึ่งถ้าคุณอนุญาตให้ หนึ่งคน คุณก็ต้องอนุญาตให้ทุกคน”

นอกจากนี้ Trump ยังมีแผนที่จะคุยกับ Xi Jinping หลังจากที่จีนประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ เพื่อที่จะตอบโต้มาตรการภาษี จากทางสหรัฐฯ

.

Nike (NKE US) คาดการณ์รายได้ไตรมาส 4 (สิ้นสุด พฤษภาคม 2025) ลดลงมากกว่า นักวิเคราะห์คาด ท่ามกลางความพยายามดึงลูกค้ากลับ โดยบริษัทเผยแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 ที่ต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด โดยคาดว่ารายได้จะลดลงในช่วงกลาง ของตัวเลขสองหลัก (Mid-teens percentage range) ซึ่งอ่อนแอกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ จะลดลง 12.22% สู่ระดับ $1.11 หมื่นล้าน ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3 (สิ้นสุด กุมภาพันธ์ 2025) แสดงให้เห็นว่ารายได้รวมลดลง 9% YoY อยู่ที่ $1.13 หมื่นล้าน ซึ่งยังดีกว่า การคาดการณ์ของตลาดที่ $1.10 หมื่นล้าน อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิต่อหุ้นลดลงถึง 45% YoY เหลือ $0.54 แม้จะลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ (-62.2%) ส่วนยอดขายในจีนยังคงปรับตัวลดลงถึง 17% YoY

.

ฝ่ายกลยุทธ์ฯ ประเมินว่า ในระยะสั้น Nike ยังคงเผชิญแรงกดดันอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจาก อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการปรับโครงสร้างกลยุทธ์ ท่ามกลางความท้าทายจากรายได้ที่ ชะลอตัวต่อเนื่อง, ปัญหาสินค้าคงคลังสะสมในหลายหมวดสินค้า, และการแข่งขันที่ทวีความ รุนแรง โดยเฉพาะในตลาดจีน ขณะที่การประกาศแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4 ที่ต่ำกว่า ตลาดคาดการณ์อย่างมีนัย รวมถึงการหดตัวของอัตรากำไรขั้นต้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อน ความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวในระยะสั้นที่ยังไม่คลี่คลาย อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว เรายังคง มีมุมมองเชิงบวกต่อศักยภาพในการฟื้นตัวของ Nike จากความแข็งแกร่งของแบรนด์ในระดับโลก ฐานลูกค้าที่ภักดี และการปรับโครงสร้างเชิงกลยุทธ์ผ่านแผน “Win Now” ซึ่งครอบคลุม การพลิกฟื้นแบรนด์ การกระตุ้นดีมานด์ด้วยสินค้าใหม่ และการปรับโมเดลความสัมพันธ์กับคู่ ค้าปลีก หากสามารถบริหารสินค้าคงคลังให้กลับสู่สมดุล และกลับมาสร้างยอดขายที่มาจาก ราคาปกติได้อย่างต่อเนื่อง มีโอกาสที่ผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจนตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป โดยความเสี่ยงที่ต้องระวัง 1) การแข่งขันที่รุนแรง 2) การพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่ล่าช้า 3) ความสามารถในการขยายช่องทางจำหน่ายที่ไม่สมดุล 4) ภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอลง

.

- Micron (MU US) มองรายได้ไตรมาส 3 (สิ้นสุด พฤษภาคม 2025) สูงกว่านักวิเคราะห์คาดหนุนโดยความต้องการชิป HBM สำหรับ AI โดยบริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 (สิ้นสุด กุมภาพันธ์ 2025) ที่แข็งแกร่งเกินความคาดหมายของตลาด โดยมีรายได้อยู่ที่ $8.05 พันล้าน เพิ่มขึ้น 38.3% YoY สูงกว่านักวิเคราะห์คาดที่ $7.89 พันล้าน และกำไรสุทธิต่อหุ้นอยู่ที่ $1.56 เพิ่มขึ้น 271.4% YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ $1.42 ขณะที่มองแนวโน้มที่แข็งแกร่งยังคงอยู่ต่อเนื่องในไตรมาส 3 โดยประมาณการรายได้ไว้ที่ $8.80 พันล้าน +/-$200 ล้าน ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ $8.5 พันล้าน นอกจากนี้ Micron ยังระบุว่าแนวโน้มการเติบโตของรายได้จะดำเนินต่อไปตลอดปีงบประมาณ 2025

.

- ฝ่ายกลยุทธ์ฯ ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ Micron และแนะนำเก็งกำไรตามแนวรับอย่างระมัดระวังในช่วงที่ตลาดผันผวน โดยมีปัจจัยหลักที่สนับสนุนแนวโน้มการเติบโตในอนาคต จากทั้งความต้องการชิป HBM ที่เร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยการใช้งานในภาค AI ซึ่งกำลังกลายเป็นเทรนด์โครงสร้างใหม่ของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่ง Micron เผยว่าคำสั่งซื้อ HBM ถูกจองเต็มแล้วสำหรับปี 2025 และกำลังลงทุนขยายกำลังการผลิตอย่างจริงจังเพื่อรองรับอุปสงค์ที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นี่เป็นสัญญาณที่สะท้อนว่าบริษัทอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งในห่วงโซ่ของ AI โดยความเสี่ยงที่ต้องระวัง 1) แรงกดดันด้านราคา NAND 2) ต้นทุนการขยายกำลังผลิต 3) ความไม่แน่นอนทางการค้าและนโยบายภาษี 4) การชะลอตัวของเศรษฐกิจส่งผลต่อวัฏจักรอุตสาหกรรมหน่วยความจำ

.

- วุฒิสภาเยอรมนี (Bundesrat) ได้อนุมัติแผนการใช้จ่ายขนาดใหญ่เมื่อวันศุกร์ ซึ่งมุ่งกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และเพิ่มขีดความสามารถทางการทหาร ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งประวัติศาสตร์ โดยการออกกฎหมายฉบับนี้ถือเป็นการยุติแนวทางการคลังแบบอนุรักษ์นิยมของเยอรมนีที่ดำเนินมาหลายทศวรรษ โดยจะจัดตั้งกองทุนมูลค่า 5 แสนล้านยูโร (ประมาณ $5.46 แสนล้าน) เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และปรับลดข้อจำกัดด้านการกู้ยืมเพื่อเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม

.

- BYD (1211 HK)-7.69% หลังคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) เปิดการสอบสวนเบื้องต้นว่าบริษัทได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลจีนอย่างไม่เป็นธรรมหรือไม่ สำหรับโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในฮังการี ตามรายงานจาก Financial Times หากพบว่า BYD ได้รับเงินอุดหนุนไม่เป็นธรรม EU อาจมีคำสั่งให้ BYD 1) ชำระคืนเงินอุดหนุน 2) ลดกำลังการผลิต 3) ขายสินทรัพย์บางส่วน และ 4) อาจต้องจ่ายค่าปรับกรณีไม่ปฏิบัติตาม โดยการสอบสวนครั้งนี้อาจเพิ่มความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหภาพยุโรป (EU) และจีนขึ้นอีกขณะที่รัฐบาลฮังการีภายใต้นายกรัฐมนตรี Viktor Orbán กำลังเร่งดึงดูดเงินลงทุนจากจีนเข้าประเทศ

- Meituan (3690HK) รายงานกำไรไตรมาส 4 ปี 2024 เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง แม้เผชิญการแข่งขันรุนแรง Meituan โดยรายได้ไตรมาส 4 ปี 2024 อยู่ที่ ¥8.85 หมื่นล้าน ($1.22 หมื่นล้าน) +20% YoY (สูงกว่าคาด 0.64%) นำโดยรายได้จากธุรกิจ Local Commerce ที่เติบโต +19% YoY เป็น ¥6.56 หมื่นล้าน ได้แรงหนุนจากการขยายตัวของช่องทางออนไลน์และอุปสงค์ผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง ขณะที่กำไรสุทธิไตรมาส 4 อยู่ที่ ¥6.22 พันล้าน ($858 ล้าน) +180% YoYโดยมีกำไรสุทธิต่อหุ้น (Adjusted Basic EPS) ที่ ¥1.63 ต่อหุ้น +131.2% YoY (สูงกว่าคาด 3.43%) นอกจากนี้ บริษัทระบุแผนการลงทุนเพิ่มเติมในเทคโนโลยีใหม่ ได้แก่ AI, การส่งสินค้าด้วยโดรน และรถส่งของไร้คนขับ เพื่อเพิ่มศักยภาพระยะยาว พร้อมทั้งขยายธุรกิจในต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์ม Keeta ที่เริ่มเห็นการเติบโตในฮ่องกงและซาอุดีอาระเบีย

.

- รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้: สหรัฐฯ GDP Q4 Final (ตลาดคาด +2.4% Annualized QoQ vs. ครั้งก่อนที่ +2.3%), Durable Goods Orders เบื้องต้นเดือน ก.พ.(ตลาดคาด -0.7% MoM vs. เดือนก่อน +3.2%) และ S&P Global Manufacturing PMI เบื้องต้นเดือน มี.ค. (ตลาดคาดอยู่ที่ระดับ 51.8 จุด vs. เดือนก่อนที่ระดับ 52.7 จุด) ยุโรป HCOB Manufacturing PMI เบื้องต้นเดือน มี.ค. (ตลาดคาดที่ระดับ 48.0 จุด vs. เดือนก่อนที่ระดับ 47.6 จุด) ญี่ปุ่น Tokyo Core CPI เดือน มี.ค. (ตลาดคาดและเดือนก่อนที่ +2.2% YoY)

 

- ติดตามรายงานผลประกอบการฯ ในสัปดาห์นี้: จันทร์ BYD (ตลาดคาดรายได้และ EPS+44.1% และ +64.3% YoY ตามลำดับ) อังคาร Atour Lifestyle (ตลาดคาดรายได้และ EPS+32.6% และ +42.7% YoY ตามลำดับ) Haidilao (ตลาดคาดรายได้และ EPS +7.9% และ -1.6% YoY ตามลำดับ) พฤหัสบดี Lululemon (ตลาดคาดรายได้และ EPS +11.4% และ +10.7% YoY ตามลำดับ)

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง