รีเซต

อินดิจี (IDG) เข้าเทรด mai 24 ต.ค. กลุ่มเทค ราคา 3 บาท/หุ้น พีอี 17.65 เท่า

อินดิจี (IDG)  เข้าเทรด mai 24 ต.ค. กลุ่มเทค ราคา 3 บาท/หุ้น พีอี 17.65 เท่า
TNN ช่อง16
24 ตุลาคม 2568 ( 08:00 )
10

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. อินดิจี เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มเทคโนโลยี โดยใช้ชื่อย่อ “IDG” ในวันที่ 24 ตุลาคม 2568

IDG ประกอบธุรกิจให้บริการออกแบบและพัฒนาระบบดิจิทัลแบบครบวงจร รวมทั้งให้บริการเป็นที่ปรึกษาด้าน Digital & AI Transformation และพัฒนาโซลูชันตามความต้องการของลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย บริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทชั้นนำระดับโลก ได้แก่ Microsoft Corporation และมีความเชี่ยวชาญในซอฟต์แวร์ระดับสากล อาทิ Microsoft 365, Microsoft Azure, Adobe Cloud และ Nintex 

นอกจากนี้ บริษัทยังได้พัฒนาซอฟต์แวร์ภายใต้ลิขสิทธิ์ของบริษัทเอง เพื่อรองรับการใช้งานของลูกค้าในหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ WORK+, BIZ+, LIFE+ และ 365+ 

โดยกลุ่มลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นองค์กรชั้นนำขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม อาทิ กลุ่มสถาบันการเงิน กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสุขภาพ และกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น สำหรับงวด 6 เดือน 2568 บริษัทมีรายได้จากการขายซอฟต์แวร์ : การบริการพัฒนาระบบดิจิทัล : การบริการบำรุงรักษาระบบและซอฟต์แวร์ : บริการอื่นๆ คิดเป็นร้อยละ 29 : 29 : 19 : 23 ตามลำดับ


IDG มีทุนชำระแล้วหลัง IPO 50 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท โดยมีหุ้นสามัญเพิ่มทุน 28 ล้านหุ้น เสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ไม่น้อยกว่า 21 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัทไม่เกิน 4.2 ล้านหุ้น พนักงานซึ่งไม่ใช่กรรมการหรือผู้บริหารของบริษัท ไม่เกิน 2.8 ล้านหุ้น 

โดยเสนอขายผู้ลงทุนระหว่างวันที่ 15-17 ตุลาคม 2568 ในราคาหุ้นละ 3 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 84 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 300 ล้านบาท ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ประมาณ 17.65 เท่า คำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุดตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ถึง 30 มิถุนายน 2568 ซึ่งเท่ากับ 16.97 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.17 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ

นายวิธาน ฉั่วเจริญศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อินดิจี (IDG) เปิดเผยว่า บริษัทมีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาและพัฒนาระบบโดยใช้เทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกมามากกว่า 25 ปี โดยได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Microsoft Gold Certified Partner ตั้งแต่ปี 2549 บริษัทมีทีมงานที่เชี่ยวชาญ เข้าใจผลิตภัณฑ์ของ Microsoft เป็นอย่างดี และสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ตรงตามความต้องการทางธุรกิจ จึงได้รับการยอมรับจากลูกค้าองค์กรชั้นนำในประเทศ สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะนำไปใช้วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ขยายสำนักงานและศูนย์บริการธุรกิจดิจิทัล และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

IDG มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO คือ บริษัท ไอซีบีจี จำกัด (นิติบุคคลของกลุ่มครอบครัวฉั่วเจริญศิริ) ถือหุ้น 28.80% นายวิธาน ฉั่วเจริญศิริ ถือหุ้น 24.91% นางสาววรพรรณ ฉั่วเจริญศิริ ถือหุ้น 13.97% และนางสาววรนีย์ ฉั่วเจริญศิริ ถือหุ้น 4.32% โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินหลังหักเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนดและตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับบริษัท


บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า IDG ผู้ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation และ Digital Platform แบบครบวงจร มีความโดดเด่นและเชี่ยวชาญ ด้าน Digital Platform ที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยียาวนานกว่า 25 ปี คาด EPS เติบโตเฉลี่ย 17.8% CAGR ในปี 2025-2027 ได้แรงหนุนจากการจำหน่าย และ บริการ Software ของ IDG ช่วยให้ Product Mix ดีขึ้น และคาดว่า IDG จะมีกำไรสุทธิ 17.8% CAGR ใน 2025-2027F 

โดยแรงหนุนจาก 1) Product Mix ที่ดีขึ้นจากการจำหน่าย Software โดยคาดว่าจะเติบโต 20.4% CAGR โดยเฉพาะ Platform ของ IDG ซึ่งเราคาดว่าจะมีกำไรขั้นต้นสูง 70% จากการตั้งเป้าการขยายฐานลูกค้าองค์กรในเชิงรุกมากขึ้น (อัตรากำไรขั้นต้นเดิม ราว 80% สำหรับ Platform WORK+, Biz+, Life+ และ 365+ และ Microsoft ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นราว 10%), 2) รายได้จากการให้บริการพัฒนาระบบ Digital ที่คาดว่าจะเติบโต 14.5% CAGR ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งเราเชื่อว่าจะเติบโตตามตลาดธุรกิจ Software และบริการ IT solution

จากการประเมินราคาเป้าหมายปี 2026 ที่ 4.30 บาท อิง PE valuation โดยใช้ EPS ปี 2026F ที่ 0.23 บาท/หุ้น และ Forward PE ปี 2026F ที่ 18.6 เท่า ใกล้เคียง -1.0 S.D. ของค่าเฉลี่ย Forward PE ของกลุ่มที่ปรึกษาด้าน Digital transformation 


ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง