รีเซต

AJแพ็กเกจจิ้งขายดี รุกสินค้าไฮมาร์จิ้น ดันยอดขายโต10%

AJแพ็กเกจจิ้งขายดี รุกสินค้าไฮมาร์จิ้น ดันยอดขายโต10%
ทันหุ้น
11 กุมภาพันธ์ 2565 ( 07:07 )
291
AJแพ็กเกจจิ้งขายดี รุกสินค้าไฮมาร์จิ้น ดันยอดขายโต10%

#AJ #ทันหุ้น – AJ เดินเกมเมกะเทรนด์ “บรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน” มองดีมานด์แพ็กเกจจิ้งเติบโตดี กลุ่มอุปโภค-บริโภค ยังขยายตัว ปักธงปริมาณขายปีนี้เติบโต 2 หลัก ลุยสินค้าไฮมาร์จิ้นดันยอด พร้อมขยายกำลังการผลิตฟิล์ม BOPP ช่วงไตรมาส 4/2565 ส่วนการร่วมทุนกลุ่ม SCG คาดเริ่มผลิตไตรมาส 4/2565 ขยายตลาดอาเซียน โบรกมอง กำไรปี 2565 เติบโตต่อ มีอัพไซด์จากการร่วมทุน

 

แหล่งข่าวจาก บริษัท เอ.เจ.พลาสท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AJ เปิดเผยว่า ปี 2565 คาดว่าปริมาณการขายจะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักหรือราว 10% จากทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยความต้องการแผ่นฟิล์มยังดีต่อเนื่องในทุกประเภทจากความต้องการในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแพ็กเกจจิ้ง ที่ยังความต้องการใช้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะการอุปโภค บริโภคยังเป็นสิ่งจำเป็น ทำให้ปัจจัยโควิด-19 ไม่กระทบมากนัก

 

ในส่วนของต้นทุนบริษัทสามารถบริหารจัดการได้  โดยปีนี้แผ่นฟิล์ม BOPA จะมีโอกาสที่มีสัดส่วนมากขึ้น จากปัจจุบันที่ 20% เพราะลูกค้าส่วนใหญ่กลับมาสั่งซื้อสินค้าในประเทศมากขึ้น ลดการนำเข้าจากญี่ปุ่น เพราะปัจจุบันอาจจะมีปัญหาในเรื่องของ การขนส่ง อัตราค่าขนส่งที่ทำให้ต้นทุนสูง และมีความไม่แน่นอน ดังนั้นการใช้สินค้าในประเทศจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่ผู้ประกอบการ

 

*ดีมานด์แผ่นฟิล์มพุ่ง

 

“ปีนี้ AJ น่าจะมีการเติบโตต่อเนื่อง ปริมาณขายก็จะมีการเติบโต จากความต้องการใช้แผ่นฟิล์มที่เพิ่มขึ้น ในแพ็กเกจจิ้ง ซึ่งโควิด-19 อาจจะไม่ได้กระทบมากนักเพราะเรื่องของอุปโภค บริโภคยังเป็นสิ่งจำเป็น ทำให้มีความต้องการอยู่ แต่ปีนี้ก็จะมีในหลายเรื่องที่เพิ่มเข้ามา คือ กำลังการผลิตใหม่ๆ ทั้งในไทยและเวียดนาม ที่จะสนับสนุนการเติบโตของบริษัทต่อไป” แหล่งข่าว กล่าว

 

นอกจากนี้ภายในไตรมาส 2/2565 จะมีการเดินเครื่องการผลิตสินค้ากลุ่มที่เป็นสินค้ามูลค่าเพิ่ม อาทิ แผ่นฟอยล์ รวมถึงถุงแพ็กเกจจิ้งที่เป็นมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะมาสนับสนุนมาร์จิ้นของบริษัท อีกทั้งปีนี้มุ่งเน้นในเรื่องของบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน (Sustainable Packaging) เป็นแนวโน้มของบรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่นของโลก มีความหมายว่าบรรจุภัณฑ์ต้องสามารถตอบสนองต่อความต้องการของคนรุ่นปัจจุบัน เป็นเมกะเทรนด์ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ เรียกได้ว่าเป็นมิตรและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทมีองค์ความรู้ในด้านนี้ และสามารถปรับเปลี่ยนการผลิตไปในส่วนนี้ได้ และสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืน ปัจจุบันมีลูกค้าในประเทศญ่ปุ่นแล้วคาดว่าปี 2568 ตลาดในประเทศจะเห็นการใช้งานมากขึ้น

 

ขณะที่ความคืบหน้าการร่วมทุนกับ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (SCG) เพื่อขยายธุรกิจในประเทศเวียดนาม ยังเดินหน้าต่อเนื่อง โดยไตรมาส 4/2565 อาจจะเห็นการเดินเครื่องการผลิต และเริ่มรู้รายได้เข้ามาในบริษัท อีกทั้งในไตรมาส 4/2565 จะมีกำลังการผลิตใหม่จากกลุ่มแผ่นฟิล์ม BOPP เข้ามาหนุนด้วย

 

*ระยะยาวมีอัพไซด์

 

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง AJ ว่า คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-2565 ที่ 411 ล้านบาท และ 790 ล้านบาท (ลดลง 23% และ เติบโต 92% จากปีก่อน ) และคงกำไรปกติที่ 638 ล้านบาท และ 790 ล้านบาท (+32% และ +24% จากปีก่อน) นอกเหนือจากยอดขายโดยรวมที่จะกลับมาฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4/2564 มองว่า GPM มีแนวโน้มดีขึ้นจากไตรมาส 3/2564 ซึ่งอยู่ที่ 10% เช่นกัน หลังจากสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น ทำให้บริษัทไม่ต้องมีการเร่งระบายออเดอร์โดยการให้ส่วนลดกับลูกค้า ขณะที่การส่งออกแผ่นฟิล์มจากจีนที่ลดลงส่งผลให้ราคาขายโดยรวมในอุตสาหกรรมมีทิศทางดีขึ้นด้วย

 

คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมาย 27.00 บาท อิง 2022E PER 15x เทียบเท่า 5-Yr Average PER ของกลุ่ม Packaging มองว่าระยะยาวหุ้น AJ ยังมี Upside และ Synergy เพิ่มเติมจากการร่วมมือกันกับ SCG Chemicals จากการขยายกำลังการผลิตในเวียดนามเฟสถัดไปและการขยายตลาดประเทศอื่นในอาเซียน สำหรับ Key Risks ได้แก่ ราคาน้ำมันและค่าเงินที่ผันผวน

 

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง