คปภ.มองบทบาทAIมากขึ้น หนุนธุรกิจประกันโตยั่งยืน
#คปภ. #ทันหุ้น -คปภ. หนุนธุรกิจประกันภัยปรับตัวในยุคดิจิทัล เพื่อคว้าโอกาสและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ชี้ AIจะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจยิ่งขึ้น ในการวิเคราะห์ข้อมูล พัฒนาผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงจับการฉ้อฉลด้านประกันภัย ยังรวมถึงสร้างโอกาสและช่องทางในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด ภูมิใจ ประกันภัยเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนจีดีพี ด้วยตัวเลขเบี้ยกว่า 9 แสนล้านบาท และสินทรัพย์ลงทุน ถึง 3 ล้านล้านบาท
นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. กล่าวว่า คปภ.มองเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจประกันภัยมากขึ้นในยุคดิจิทัล ทั้งในส่วนของภาคประกันชีวิต และประกันวินาศภัย ซึ่งการมาของเทคโนโลยี นอกจากทำให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ยังนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และบริการ ที่สามารถตอบโจทย์ได้แบบรายบุคคลยิ่งขึ้น
“โดยเฉพาะเมื่อโครงสร้างประชากรไทยเปลี่ยนเป็นสังคมสูงอายุ ความต้องการผลิตภัณฑ์ประกันภัยก็มีมากขึ้น โดยเฉพาะกับแบบประกันสุขภาพ และประกันบำนาญ ที่มีตัวเลขการเติบโตของเบี้ยประกันเพิ่มขึ้น และยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งตัวเลขล่าสุดของประกันสุขภาพพอร์ตเบี้ยขยับมาอยู่ที่ 1 แสนล้านบาท จากพอร์ตเบี้ยของทั้งอุตสาหกรรมที่อยู่ราว9 แสนล้านบาท สะท้อนถึงดีมานด์ความต้องการที่สูง และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
ซึ่งรวมถึงรูปแบบประกันที่ฝั่งลงไปในผลิตภัณฑ์อื่นๆ (Embedded Insurance) เช่น การขายผูกไปแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ อย่าง ประกันภัยมือถือ หรือผูกไปกับแพลตฟอร์มเครือข่ายมือถือ ที่เมื่อลูกค้าจะเดินทางไปต่างประเทศ ผู้ให้บริการเครือข่ายก็สามารถเสนอประกันเดินทาง (TA)ได้ทันที่ สิ่งเหล้านี้สะท้อนพัฒนาการของภาคธุรกิจที่ถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ช่วงสร้างโอกาสในการเติบโตได้อย่างยั่งยืน
นายชูฉัตร กล่าวต่อไปว่า รูปแบบของบริการ ตั้งแต่ต้น จนจบกระบวนการจะรวดเร็ว ถูกต้อง ปลอดภัยอย่างไร้รอบต่อ ดังนั้นแล้วภาคธุรกิจประกันในช่วงที่ผ่านมาจึงมีการปรับตัว และลงทุนในเทคโนโลยีไม่น้อยไปกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ โดยเฉพาะการลงทุนในปัญญาประดิษฐ หรือ AI ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทสำคัญมากยิ่งขึ้นในภาคธุรกิจ ช่วยในเรื่องของการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับธุรกิจประกันภัย
“เพราะธุรกิจประกันภัยเป็นเรื่องของการบริหารความเสี่ยง ดังนั้น เราจึงมีฐานข้อมูลจำนวนมาก (Big Data) แต่เราก็ต้องการข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำสูง ไม่เพียงนำไปสู่การพัฒนา ผลิตภัณฑ์ และบริการ แต่ยังสามารถจับการฉ้อฉลด้านประกันภัยได้อย่างแม่นยำ ดังนั้นเราจึงต้องการ AI เข้ามาช่วยจัดการ วิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้”
ต่อประเด็นที่ว่า ธุรกิจประกันภัยมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐไทยเพียงใดนั้น นายชูฉัตร ฉายภาพว่า มูลค่าทางเศรษฐกิจไทย(จีดีพี) อยู่ที่ 18ล้านล้านบาท เบี้ยของภาคธุรกิจประกันภัยอยู่ที่กว่า 9แสนล้านบาท และยังมีสินทรัพย์ลงทุนอีก 3ล้านล้านบาท รวมแล้วก็นับว่ามีบทบาทต่อเศรษฐกิจไม่น้อย ดังนั้นการเติบโตของธุรกิจประกันภัย จึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยเช่นกัน
สำหรับธุรกิจประกันภัย ยังคงเผชิญกับความเสี่ยงหลายด้าน ทั้งภาวะเศรษฐกิจที่กดกำลังซื้อของผู้บริโภค และล่าสุดยังต้องจับตานโยบาย ทรัมป์ 2.0ที่ออกมาจะสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกมากน้อยแค่ไหน ในฐานที่สหรัฐเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ นโยบายที่ดำเนินการย่อมกระทบต่อหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะประเทศคู่ค้า ไม่ว่าจะเรื่องการขึ้นกำแพงภาษี การผลักดันแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายกลับประเทศ ซึ่งอาจทำให้เงินเฟ้อสหรัฐปรับขึ้นอีกครั้ง จนไม่สามารถลดดอกเบี้ยได้ตามที่ตลาดคาด
นอกจากนี้ก็เรื่องของการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ ที่ปัจจุบันเกิดภัยพิบัติที่รุนแรงขึ้น บ่อยขึ้น ก็เป็นปัจจัยท้าทายของภาคธุรกิจ แต่สิ่งเหล่านี้ก็อาจมาพร้อมโอกาสได้หากมีความพร้อมปรับตัวในทุกๆ สถานการณ์ ซึ่ง คปภ. พร้อมสนับสนุนภาคธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน และมีฐานที่แข็งแกร่ง