จับตาFVCมีลุ้นพลิกกำไร เดินเกมเปิดศูนย์ไตเทียม
ทันหุ้น – “วิจิตร เตชะเกษม” บอสใหญ่ FVC แย้มผลงานปีนี้มีลุ้นพลิกกำไร คาดเห็นภาพชัดปลายปี ชี้ธุรกิจหลักยังเป็นการให้บริการศูนย์ไตเทียม เตรียมทุ่มงบลงทุน 100 ล้านบาท เพิ่มเครื่องไตเทียม 200 เครื่องภายในปีนี้ พร้อมวางเป้ารายได้รวมแตะ 800 ล้านบาท
นายวิจิตร เตชะเกษม ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FVC เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายรายได้ปี 2564 ไว้ที่ 800 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2562 ที่ 822 ล้านบาท โดยรายได้จะมาจากกลุ่มธุรกิจ B1 ธุรกิจอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ ประมาณ 150-170 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจ B2 ธุรกิจเพื่อการพาณิชย์และที่พักอาศัย ประมาณ 270-300 ล้านบาท
ชูโมเดลธุรกิจ
และจากธุรกิจ B3 ธุรกิจการแพทย์ ประมาณเกือบ 300 ล้านบาท ทั้งนี้ธุรกิจ B3 ของบริษัท ประกอบไปด้วย 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ดำเนินธุรกิจออกแบบ ติดตั้งระบบน้ำทางการแพทย์ และตกแต่งศูนย์ไตเทียม ผลิตและจำหน่ายน้ำยาไตเทียม บริษัท เคที เมติคอล เซอร์วิส จำกัด ธุรกิจให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม
บริษัท เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด ดำเนินธุรกิจนำเข้า จำหน่าย และบำรุงรักษาเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์วิเคราะห์ วินิจฉัยสำหรับการให้บริการทางการแพทย์ รวมถึงการนำเข้า จำหน่าย และติดตั้งอุปกรณ์ท่อลมรับสิ่งตรวจทางการแพทย์, บริษัท ไฮ เฮลธ์แคร์ เซ็นเตอร์ จำกัด ดำเนินธุรกิจบริการผิวพรรณและความงาม “วุฒิศักดิ์ คลินิก” และจำหน่ายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิว
ปัจจุบันบริษัทยังคงดำเนินธุรกิจ B1,2,3 อย่างต่อเนื่อง และหยุดธุรกิจบริการผิวพรรณและความงาม “วุฒิศักดิ์ คลินิก” เนื่องจากได้รับผลกระทบมากจากวิกฤติโควิด-19 อย่างไรก็ตามแม้ปัจจุบันจะเกิดวิกฤติโควิด-19 ขึ้นอีกครั้งในประเทศไทย บริษัทประเมินว่าธุรกิจอาจจะได้รับผลกระทบเล็กน้อย แต่บริษัทยังคงเดินธุรกิจตามแผน และไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
มาร์จิ้นเติบโตสูงขึ้น
ทั้งนี้ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า หรือในปี 2565 บริษัทจะผลักดันให้ให้ทั้งธุรกิจ B1,2,3 เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะผลักดันรายได้B1 ในปี 2565 จะมียอดขายอยู่ที่ 150-200 ล้านบาท โดยเกิดจากทีมงานที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งบริษัทคาด Smart warehouse หรือระบบหลังบ้านของธุรกิจ B1จะช่วยสร้างประสิทธิภาพในการทำงาน แม้รายได้จะเท่าเดิมหรือใกล้เคียงกันในช่วง 2-3 ปี แต่ทิศทางมาร์จิ้นจะเติบโตสูงขึ้น
ส่วนธุรกิจ B2 บริษัทจะผลักดันให้มีรายได้แตะที่ 500 ล้านบาท จากแนวโน้มลูกค้าที่เข้ามาหาบริษัทมากขึ้น โดยลูกค้ากลุ่มร้านอาหารเติบโตเพิ่มขึ้นสูงในช่วงที่ผ่านมา และธุรกิจ B3 บริษัทจะผลักดันให้มีรายได้แตะที่ 500 ล้านบาท โดยธุรกิจหลักๆ คือให้บริการศูนย์ไตเทียม ซึ่งบริษัทตั้งเป้ามีศูนย์ไตเทียมในปี 2565 ครบ 200 เครื่อง แต่หากดูแนวโน้มจากการเพิ่มเครื่องบริการไตเทียมในปัจจุบัน คาดทิศทางการเพิ่มเครื่องไตเทียมจะเร็วกว่ากำหนด
ทุ่มงบ 100 ล้าน
โดยคาดจะเห็นเครื่องบริการไตเทียม 200 เครื่องภายในปลายปีนี้ หรือไม่เกินกลางปี 2564 ทั้งนี้บริษัทวางงบลงทุนสำหรับเพิ่มเครื่องไตเทียมไว้ที่ 100 ล้านบาท สำหรับการเพิ่มเครื่องอรก 40-50 เครื่อง ส่วนธุรกิจในเครือ เช่น ธุรกิจผลิตน้ำยาไตเทียม จะเติบโตไปในทิศทางเดียวกันกับธุรกิจบริการไตเทียม โดยสัดส่วนหารขายน้ำยาไตเทียมของบริษัทในเครือมาจากการขายให้บริษัท เคที เมติคอล เซอร์วิส จำกัด ราว 20% และขายให้กับตลาดทั่วไป 80%
ส่วนภาพรวมผลประกอบการปี 2564 บริษัทคาดจะพลิกมีกำไร หรือเทิร์นอะราวน์จากปี 2563 ขาดทุน 92.94 ล้านบาท โดยคาดจะเห็นภาพชัดเจนในช่วงปลายปีนี้ อนึ่ง ปี 2563 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 561.43 ล้านบาท และมีผลขาดทุน 92.94 ล้านบาท