รีเซต

ETC มั่นใจเทรด 18 ส.ค. นักลงทุนสนใจสะสมหุ้น หลัง Q2 กำไรพุ่งเกิน 100% สวนกระแสโควิด

ETC มั่นใจเทรด 18 ส.ค. นักลงทุนสนใจสะสมหุ้น หลัง Q2 กำไรพุ่งเกิน 100% สวนกระแสโควิด
มติชน
17 สิงหาคม 2563 ( 14:43 )
120
ETC มั่นใจเทรด 18 ส.ค. นักลงทุนสนใจสะสมหุ้น หลัง Q2 กำไรพุ่งเกิน 100% สวนกระแสโควิด

นายเอกรินทร์ เหลืองวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETC กล่าวถึงผลประกอบการครึ่งปีแรกมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้ารวม 311 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 161 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 135% จากกำไรสุทธิ 36 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนไตรมาสสองมีรายได้รวม 176 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105% จากรายได้รวม 86 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรขั้นต้น 99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 203 % (QoQ) และเพิ่มขึ้น 170% (YoY) จากกำไรสุทธิ 23 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

 

นายเอกรินทร์ กล่าวว่า ผลประกอบการที่เติบโตสูงมาจากการที่บริษัทฯสามารถรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าขยะครบทั้ง 3 แห่ง ที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 16.50 เมกะวัตต์ เป็นไตรมาสแรก จากเดิมในปีที่แล้ว ETC รับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเพียงแห่งเดียวที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 8 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าใหม่ทั้ง 2 แห่ง คือ โรงไฟฟ้าขยะ RH และโรงไฟฟ้าขยะ AVA มีอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ FiT สูงถึง 6.83 บาท/หน่วย ซึ่งเป็นอัตราการรับซื้อไฟฟ้าที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงประเภทอื่นและทำให้บริษัทฯมีอัตรากำไรต่อเมกะวัตต์ค่อนข้างสูง โดยในไตรมาส 2 นี้ ETC มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 56.25% และมีอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 35% ซึ่งอัตรารายได้รวมและอัตรากำไรของไตรมาส 2 นี้ อาจใช้เป็นมาตรฐานของการดำเนินงานของบริษัทฯ เนื่องจากเป็นผลการดำเนินงานที่มาจากการรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง นอกจากนี้บริษัทฯจะพยายามปรับปรุงเพิ่มความสามารถในการทำกำไร ด้วยการบริหารดูแลซ่อมแซมโรงไฟฟ้า ตลอดจนลดต้นทุนการผลิต การบริหารและต้นทุนทางการเงินอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้ผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน

 

“สำหรับแนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯ มีแผนขยายกิจการในอนาคต บริษัทฯได้ศึกษาและวางแผนที่จะประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาดต่างๆ ของภาครัฐ อาทิ เช่นโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 400 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม 44 เมกะวัตต์ ซึ่งทั้งหมดคาดว่าจะเปิดประมูลปลายปีนี้ โดยบริษัทฯมีความมั่นใจ ด้วยศักยภาพของบริษัทและบริษัทแม่ คือ บมจ. เบตเตอร์เวิลด์ กรีน (BWG) ซึ่งเป็นผู้นำอันดับ 1 ด้านการรับบริหารกำจัดกากอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญ และมีปริมาณขยะอัดก้อน(RDF) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่สำคัญ และมีบริษัทย่อยที่เป็นผู้รับเหมาในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะและชีวมวลแบบครบวงจร (EPC) จะสามารถประมูลโรงไฟฟ้าได้หลายโครงการ และสร้างการเติบโตให้กับ ETC ได้อย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง” นายเอกรินทร์กล่าว

 

นายเอกรินทร์ กล่าวถึงการนำหุ้นไอพีโอ ETC เข้าเทรดวันที่ 18 สิงหาคมว่าเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากบริษัทฯ เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าที่มีรายได้มั่นคง และไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด -19 และวิกฤติเศรษฐกิจแต่อย่างใด อีกทั้ง ETC มีผลประกอบการที่เติบโตอย่างสูงและต่อเนื่อง และ มีนโยบายการจ่ายปันผล 50% ของกำไรสุทธิ จึงมั่นใจว่า ETC จะเป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่สนใจหุ้นเติบโตสูง และนักลงทุนหุ้นปันผลสูง

 

สำหรับบริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอเมนท์ จำกัด (มหาชน) (ETC) มีโรงไฟฟ้าพลังงานขยะอุตสาหกรรม 3 แห่งคือ ที่จังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยา และพิจิตร รวมกำลังการผลิต 20.4 เมกะวัตต์ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 16.5 เมกะวัตต์กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ระยะเวลา 20 ปี โดย ETC เป็นบริษัทในกลุ่มเบตเตอร์เวิลด์ กรีน (BWG) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้รับบริหารกำจัดกากอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และมีโรงงานผลิตขยะอัดก้อน (RDF) มีกำลังการผลิตประมาณ 500,000 ตันต่อปีทำให้ ETC มีความมั่นคงด้านเชื้อเพลิง รวมถึงข้อได้เปรียบด้านคุณภาพ และต้นทุนเชื้อเพลิง

 

ปัจจุบัน ETC มีทุนจดทะเบียน 1,120 ล้านบาท และมีจำนวนหุ้นทั้งหมด 2,240 ล้านหุ้น ด้วยมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น โดยที่ผ่านมาบริษัทฯมีผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในปี 2560 – 2562 มีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าจำนวน 184.10 ล้านบาท 325.24 ล้านบาท และ 362.39 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่มีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 3.14 ล้านบาท ในปี 2560 และมีกำไรสุทธิจำนวน 65.35 ล้านบาท และ 56.80 ล้านบาท ในปี 2561 – 2562 ตามลำดับ ขณะที่ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าจำนวน 134.90 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 24.18 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิสูง 18%

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง