2ผัวเมีย สู้ชีวิต หนีน้ำนอนศาลาวัดนานร่วม 3 เดือน ยุงชุมเดือดร้อนสาหัส
เมื่อเวลา 20.50 น.วันที่ 19 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ชุมชนติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีน้ำท่วมขังสูง อาทิ ชุมชน วัดศาลาลี วัดตึก และวัดค้างคาว ซึ่งพบว่าน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังทะลักเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ของชุมชนทั้ง 3ชุมชน มีระดับน้ำที่ยังสูงอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดศาลาลี พบสองสามีภรรยาสู้ชีวิตอาชีพเก็บของเก่าขายได้พักอาศัยอยู่ที่ศาลาวัดส่วนสามี นอนข้างองค์พระประทาน เพราะน้ำเข้าท่วมบ้านสูง
นางเบ็ญ บุณประทีป อายุ 40 ปี เปิดเผยว่า ตนและ นายยุทธนา สินารุณ ซึ่งเป็นสามี มีอาชีพเก็บของเก่าขายและได้เช่าบ้านอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในชุมชนวัดศาลาลี โดย 3-4 เดือนที่ผ่านมาน้ำเจ้าพระยาได้เพิ่มระดับสูงขึ้นมามาก มีน้ำไหลเข้าท่วมห้องนอน จนนอนไม่ได้ มีระดับน้ำสูงถึงหน้าอก ทำให้นอนในห้องเช่าไม่ได้ ส่วนข้าวของเครื่องใช้เสียหายพังหมดทั้งห้องไม่มีอะไรเหลือเลย ทุกวันนี้เหลือแต่ตัว ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหนเงินทองก็ไม่มี จึงได้ตัดสินใจมานอนที่ศาลาวัดศาลาลีนาน 3-4 เดือนได้แล้ว ที่นอนของตนก็มีเต็นท์ที่เก็บมาได้จากกองขยะเอามากางนอน ซึ่งในบางคืนตนและสามีต้องแยกกันนอนเพราะน้ำท่วมสูง ต้องผูกแปลนอน เพื่อหนีน้ำส่วนสามี ต้องไปนอนศาลาหน้าพระประธานในแต่ละคืนยุงเยอะมากแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงต้องอยู่แบบตามมีตามเกิดลำบาก
ผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถาม บ้านอีกหลัง พบนายจิรการ อายุ 59 ปี กำลังยืนอาบน้ำอยู่เล่าว่า น้ำท่วมมานานหลายเดือนแล้วแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง ทุกวันนี้โดนน้ำกัดเท้าเต็มไปหมดแล้ว ห้องน้ำถูกน้ำท่วมสูงทำอะไรไม่ได้เลยจะเข้าห้องน้ำแต่ละที ต้องไปอาศัยเข้าที่วัด น้ำที่อาบก็ต้องอาบที่ไหลเข้ามาท่วมอย่างที่เห็นเป็นแบบนี้ทุกวัน ส่วนน้ำดื่มก็ต้องไปซื้อน้ำขวดมากินเอา หรือนำขวดไปกดน้ำตามตู้มาดื่มยอมรับว่าลำบากแต่ก็ต้องทนเพราะไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหนคนในชุมชนทั้งสามชุมชนได้รับความเดือดร้อนกันทุกครัวเรือนเหมือนกันไม่มากก็น้อย