รีเซต

'วราวุธ' ปลื้มติดโผ รมต.คนชื่นชม ชี้เป็นผลจากทำงานหนัก 365 วันของจนท.กระทรวง

'วราวุธ' ปลื้มติดโผ รมต.คนชื่นชม ชี้เป็นผลจากทำงานหนัก 365 วันของจนท.กระทรวง
ข่าวสด
31 ธันวาคม 2563 ( 10:13 )
64
'วราวุธ' ปลื้มติดโผ รมต.คนชื่นชม ชี้เป็นผลจากทำงานหนัก 365 วันของจนท.กระทรวง

'วราวุธ' ลั่นมั่นใจปี 64 รัฐบาลบิ๊กตู่ ทำงานเต็มที่เพื่อประชาชน ปลื้มติดโผ รมต.คนชื่นชม ชี้เป็นผลจากทำงานหนัก 365 วันของข้าราชการ-จนท.กระทรวง

 

เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองปี 2564 ว่า ปัญหาของประเทศมีมากพอสมควร ซึ่งการเมืองก็เป็นเรื่องหนึ่งที่มีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญ และความเห็นต่างในเชิงการเมือง แต่นาทีนี้สิ่งที่สำคัญคือ ประชาชนคนไทยต้องหันมาจับมือกันฝ่าฟันสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่เป็นผลกระทบ เพราะเมื่อโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อประเทศเรา เขาก็ไม่ได้แยกว่าใครสีใดฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล เพราะโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกทุกคน แม้แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครก็ยังได้รับผลกระทบ

 

 

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ปี 2564 ตนเชื่อมั่นว่าพวกเราชาวไทยควรแสดงพลังว่าเรามีความสามัคคี ซึ่งแน่นอนว่า หลายประเด็นทางการเมืองจะต้องได้รับการแก้ไข แต่บางเรื่องจะต้องเป็นประเด็นที่รองลงมาจากปัญหาปากท้องและความเป็นอยู่ของประชาชนที่กำลังเดือดร้อน ปี 2564 จะเป็นอีกปีหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลรวมถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะระดมสรรพกำลังทั้งหมดที่มีทำงานที่ท้าทาย คือเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน ในส่วนทางการเมืองก็มีกระบวนการคอยแก้ไขอย่างเป็นขั้นตอน เช่น ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องตอบรับตามครรลองทางการเมือง

 

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ส่วนที่จะมีม็อบหรือการชุมนุมเกิดขึ้นอีกหรือไม่ยังคงตอบไม่ได้ แต่ก็เชื่อว่าในช่วง โควิด-19 ระบาดนี้ไม่ว่าจะเป็นม็อบหรือเป็นคนกลุ่มใดก็แล้วแต่ คงจะมีความเป็นห่วงในสุขภาพของตนเอง ดังนั้น การอยู่บ้าน การเข้มมาตรการทางสาธารณสุข รักษาระยะห่างหรือจะยืนประท้วงกันแบบ 1 × 1 เมตร ก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละคนตนไม่ก้าวล่วง แต่ในฐานะคนไทยคนหนึ่งเวลานี้เวลานี้เราทุกคนควรช่วยกันแก้ไขปัญหา โควิด-19 ก่อน ทั้งนี้ตนมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีและรัฐบาล จะทำงานและแก้ไขอย่างดีที่สุดเพื่อให้เกิด ผลดีแก่ประชาชนคนไทย

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงคณะกรรมการสมานฉันท์ ที่ฝ่ายค้านและกลุ่มผู้ชุมนุมไม่เข้าร่วม จะทำให้แก้ไขปัญหาความเห็นต่างสำเร็จหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าถ้าเราถอยกันคนละก้าวจริงๆ ก็ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ก่อนที่จะสมานฉันท์กันได้ก็ต้องยอมกันเสียก่อน ถ้าก้าวแรกไม่มีการยอมกัน ยังไม่มีการอ่อนข้อให้กันแล้ว การที่จะก้าวเดินต่อไปคงเป็นสิ่งที่ลำบาก แต่ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือกลุ่มผู้ชุมนุมก็คงมีแนวความคิดของตัวเอง ซึ่งคงเห็นจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ว่าการที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าได้เราต้องถอยกันคนละก้าวเสียก่อน

 

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การที่พูดว่าถอยกันคนละก้าวเป็นการพูดได้ง่าย แต่ในทางปฏิบัติแล้วเข้าใจดีว่าแต่ละคนแต่ละฝ่ายก็จะมีข้อจำกัดมีแนวความคิดที่แตกต่างกันไป จึงขึ้นอยู่กับว่าแต่ละฝ่ายนั้นจะทลายกำแพงทิฐิมานะเหล่านั้นแล้วหันมานั่งพูดคุยกัน สละความคิดหลายๆ อย่าง แล้ววางเป้าหมายในการที่จะนำพาประเทศก้าวเดินไปข้างหน้า

 

"ซึ่งในปัจจุบันที่หลายฝ่ายพยายามจุด กระแส คนรุ่นเก่าคนรุ่นใหม่ ตนถือว่าเป็นสิ่งที่ผิดเป็นสิ่งที่ไม่ควร เพราะประเทศไทยวันนี้จะเดินไปข้างหน้าได้ ต้องมีทั้งคนรุ่นใหม่และคนรุ่นใหญ่เดินคู่กันไป เพราะมาถึงวันนี้ถ้าไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่ประเทศไทยก็จะมาไม่ถึงวันนี้ และแน่นอนว่าเมื่อตนพูดเช่นนี้ หลายคนก็อาจจะเถียงว่าที่เกิดปัญหาทุกวันนี้ก็เพราะคนรุ่นก่อนคนรุ่นใหญ่ทำให้เป็น แต่ก็ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมามีทั้งข้อดีและข้อเสีย"

 

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ดังนั้น การที่เราจะเดินไปข้างหน้า ถ้าไม่มีสิ่งใหม่ๆ ไม่มีคนรุ่นใหม่เข้ามา นำนวัตกรรมหรือแนวความคิดใหม่เข้ามาในการเมืองไทยก็ไม่น่าจะไปได้ จึงขอฝากสังคมไทยว่าประเทศไทยจะเดินต่อไปวันข้างหน้าขอให้ใช้ทั้งคนรุ่นใหม่และคนรุ่นใหญ่ในการเดินคู่ไปด้วยกันด้วยความคิดที่หลากหลาย ด้วยความคิดนอกกรอบของคนรุ่นใหม่ บวกกับประสบการณ์ของคนรุ่นใหญ่ ในการที่ทำให้สังคมไทยเดินไปข้างหน้าได้ ถ้าใครต้องการต้องการสร้างสงคราม หรือเจนเนอเรชั่นวอร์ ขอให้หยุดและเลิกความคิดนั้นเสีย เพราะเด็กอย่างเดียวก็ไปไม่รอดผู้ใหญ่อย่างเดียวก็ไปไม่รอด ดังนั้นทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ทั้งรุ่นใหม่และรุ่นใหญ่ ต้องจับมือและเคารพในสิทธิซึ่งกันและกัน

 

ทั้งนี้ นายวราวุธ ยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ซูเปอร์โพล ระบุว่าเป็น 1 ใน 5 รัฐมนตรีที่ประชาชนชื่นชอบผลงาน ว่า คะแนนที่ได้และสิ่งที่ตนทำไปนั้น ตัวรัฐมนตรีเป็นเพียงสิ่งที่เรียกว่าผลพวงของการทำงานอย่างหนักของเพื่อนๆ ข้าราชการกระทรวงทรัพยากรฯ รัฐมนตรีหรือผลงานที่ออกมานั้นเป็นผลลัพธ์ของการทำงานร่วมไม้ร่วมมือกัน ภายใต้นโยบาย ทส.หนึ่งเดียว กระทรวงทรัพยากรฯ ไม่มีการแบ่งแยกการทำงานของหน่วยงานว่าเป็นกรมนั้นกรมนี้ เป็นการประสานงานอย่างใกล้ชิดและทำงานหนักตลอด 365 วันที่ผ่านมา

 

“ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความสนใจ แต่ต้องเรียนว่าคะแนนที่ได้มานั้นล้วนแล้วแต่เป็นความตั้งใจของเพื่อนๆ ข้าราชการกระทรวงทรัพยากรฯ ตั้งแต่ปลัดกระทรวงลงไปจนถึงพนักงานจ้างเหมาทุกๆ ระดับที่ทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง แม้แต่เวลานี้ทุกคนก็ยังทำงานกันอยู่ ขอฝากว่าหากมีสิ่งใดติชมก็ขอให้ฝากผ่านมาทางเพจของตนหรือเพจกระทรวงทรัพยากรฯ ได้ ยืนยันว่ากระทรวงทรัพยากรฯ เป็นที่พึ่งไม่ใช่เป็นตัวสร้างปัญหาของพี่น้องประชาชน” นายวราวุธ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง