ไต้หวันขอบคุณสหรัฐ จ่อขาย "ปืนใหญ่อัตตาจร" บิ๊กล็อต เกือบ2.5หมื่นล้านบาท
ไต้หวันขอบคุณสหรัฐ - วันที่ 5 ส.ค. เอเอฟพี รายงานว่า ไต้หวันขอบคุณสหรัฐอเมริกาที่ตกลงขายระบบปืนใหญ่ปืนครก จำนวน 40 ชุด ในข้อตกลงมูลค่า 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 25,000 ล้านบาท ที่จะช่วยไต้หวันป้องกันตัวเองจากการรุนรานของจีนดีขึ้น
กระทรวงต่างประเทศไต้หวันระบุว่า เป็นการประกาศขายอาวุธรายใหญ่ครั้งแรกตั้งแต่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งเป็นผู้นำสหรัฐ ในเดือนม.ค.ปีนี้ และจะช่วยไต้หวันรักษาสถานะการป้องกันตัวเองอย่างมั่นคง รวมถึงสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค
"หลังเผชิญกับการขยายกำลังทหารและการยั่วยุอย่างต่อเนื่องของจีน รัฐบาลของเราจะส่งเสริมการป้องกันและความมั่นคงประเทศด้วยความตั้งใจอย่างแน่วแน่เพื่อปกป้องชีวิตประชาชนและวิถีชีวิตเสรีและประชาธิปไตย" กระทรวงต่างประเทศไต้หวันระบุ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอนุมัติการขายระบบปืนใหญ่อัตตาจรขับเคลื่อนด้วยตัวเองขนาดกลาง M109A6 ขนาด 155 มิลลิเมตร จำนวน 40 ชุด เมื่อวันพุธที่ 7 ส.ค. ในข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งจะต้องได้รับจากอนุมัติจากคองเกรสสหรัฐ
ปืนครกแบบเคลื่อนย้ายได้จะเป็นหัวใจสำคัญในการขัดขวางการรุกรานจากภายนอก ทำให้กองทัพไต้หวันสั่งการยิงเรือขนส่งทหารที่เข้ามาและ shell landing beaches.
ทั้งนี้ ไต้หวันดินแดนปกครองตัวเองและเป็นประชาธิปไตย อยู่ภายใต้คุกคามอย่างต่อเนื่องจากจีน ซึ่งผู้นำมองว่า เกาะนี้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดนตัวเอง และให้คำมั่นที่จะยึดไต้หวันสักวันหนึ่งด้วยกำลังหากจำเป็น
รัฐบาลจีนภายใต้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำคนปัจจุบัน เพิ่มแรงกดดันทางทหารมากขึ้น โดยตอนนี้เครื่องบินขับไล่และเครื่องบินทิ้งระเบิดสำรวจเขตป้องกันตัวเองทางอากาศของไต้หวันเกือบทุกวัน ขณะที่เรือขุดทรายเพิ่มกิจกรรมรอบเกาะต่างๆ ใกล้จีนแผ่นดินใหญ่ และกองทัพปลดแอกประชาชนเผยแพร่การฝึกซ้อมการจำลองการรุกรานไต้หวัน
ในทางการทูต แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐจะยอมรับรัฐบาลจีนเหนือไต้หวัน แต่ยังมีข้อผูกมัดด้วยกฎหมายของคองเกรสที่ขายอาวุธแก่ไต้หวันเพื่อป้องกันตัวเอง และไม่เคยให้คำมั่นที่จะปกป้องไต้หวันอย่างเปิดเผยหากถูกรุกราน ซึ่งเป็นนโยบายที่มีความ "ความคลุมเครือเชิงกลยุทธ์" ต่างจากพันธมิตรอื่นๆ ตามสนธิสัญญา เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์
แต่สหรัฐยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงใดๆ ต่อสถานะของไต้หวันในอนาคตจะต้องไม่กระทำด้วยกำลัง
ก่อนหน้านี้ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในสมัยดำรงตำแหน่ง เพิ่มยอดขายอาวุธล็อตใหญ่แก่ไต้หวัน รวมถึงโดรน ระบบขีปนาวุธ และเครื่องขับไล่ไอพ่นรุ่นใหม่ พร้อมๆ ขัดแย้งกับจีนในหลายประเด็นตั้งแต่การค้นถึงความมั่นคงแห่งชาติ
ส่วนประธานาธิบดีไบเดน แม้จะเปิดใจมากขึ้นที่จะทำงานร่วมกับจีนในประเด็นทั่วไป เช่น การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ แต่ยังรักษานโยบายแข็งกร้าวส่วนใหญ่ของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ เช่น การละเมิดสิทธิมนุษยชนของจีนตามที่ต่างๆ เช่น ฮ่องกง และเขตปกครองตนเองซินเจียง รวมถึงการคุกคามต่อไต้หวัน