สำรวจพบสาวออสเตรเลียส่วนใหญ่ใช้ชีวิตกับ 'ความเหงา'
(แฟ้มภาพซินหัว : ประชาชนถ่ายรูปใกล้ซิดนีย์โอเปราเฮาส์ในนครซิดนีย์ของออสเตรเลีย วันที่ 20 ส.ค. 2021)
แคนเบอร์รา, 7 มี.ค. (ซินหัว) -- การสำรวจใหม่จากเฮดสเปซ (Headspace) ศูนย์บริการสุขภาพจิตสำหรับคนหนุ่มสาวระดับชาติที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลออสเตรเลีย ระบุว่าหญิงสาวชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่กับความเหงาร้อยละ 67 ของผู้หญิงออสเตรเลีย อายุ 12-25 ปี เปิดเผยว่าพวกเธอรู้สึกว่าตัวเองถูกทิ้งบ่อยหรือเป็นบางครั้ง ขณะที่ร้อยละ 62 ระบุว่าขาดเพื่อนคู่คิด และอีกร้อยละ 61 ระบุว่ารู้สึกแปลกแยกจากผู้อื่นขณะที่กลุ่มผู้หญิงออสเตรเลียอายุ 18-21 ปี มีแนวโน้มเผชิญกับความเหงามากกว่ากลุ่มอื่นๆ และเป็นกลุ่มที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตน้อยที่สุดในบรรดาผู้หญิงทั้งหมดอนึ่ง การสำรวจดังกล่าวเผยแพร่ในวันพฤหัสบดี (7 มี.ค.) ก่อนหน้าวันสตรีสากลซึ่งตรงกับวันที่ 8 มี.ค. ของทุกปีนิโคลา พัลฟรีย์ เจ้าหน้าที่จากเฮดสเปซ ระบุว่าการสำรวจนี้สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของคนหนุ่มสาว เมื่อพวกเขาได้รับอิสรภาพมากขึ้น ย้ายออกจากบ้าน และเริ่มเข้าสู่การทำงาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญในชีวิตที่อาจให้ความรู้สึกตื่นเต้นและเต็มไปด้วยโอกาส ทว่าอาจรู้สึกกดดันและเครียดได้ในเวลาเดียวกันพัลฟรีย์ระบุว่ามีเหตุผลหลายประการที่ส่งผลให้หญิงสาวรู้สึกเหงา โดยหญิงสาวและผู้คนในช่วงอายุดังกล่าวมีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากการใช้สื่อสังคมออนไลน์ เนื่องจากสื่อเหล่านั้นมักโจมตีเราด้วยรูปภาพของผู้คนที่กำลังมีช่วงเวลาดีๆ รายล้อมไปด้วยเพื่อนฝูง ทำให้เราอาจรู้สึกเหงาหรือรู้สึกพลาดอะไรไปทั้งนี้ การสำรวจอีกฉบับที่เผยแพร่โดยสถาบันสุขภาพและสวัสดิการแห่งออสเตรเลียเมื่อเดือนกันยายน 2023 พบว่าร้อยละ 25 ของผู้หญิงอายุ 15-24 ปี เปิดเผยว่าพวกเธอรู้สึกเหงามากอยู่บ่อยครั้งในปี 2021 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 15 ในปี 2008