พุทธศาสนิกชนหลั่งไหลกราบสักการะ ‘พระบรมสารีริกธาตุ’ ในวันมาฆบูชา
![พุทธศาสนิกชนหลั่งไหลกราบสักการะ ‘พระบรมสารีริกธาตุ’ ในวันมาฆบูชา](https://cms.dmpcdn.com/contentowner/2021/03/24/c98687d0-8c88-11eb-b0ce-056bea7b0664_original.png)
![พุทธศาสนิกชนหลั่งไหลกราบสักการะ ‘พระบรมสารีริกธาตุ’ ในวันมาฆบูชา](https://cms.dmpcdn.com/news/2024/02/24/784e1370-d2cf-11ee-8618-39e72a5708ef_original.jpg)
วันนี้ ( 24 ก.พ. 67 )พุทธศาสนิกชน แต่งกายด้วยชุดสุภาพสีขาว พาครอบครัวไปกราบสักการะ พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ซึ่งรัฐบาลไทยได้อัญเชิญจากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนได้ระลึกถึงความสำคัญและคำสอนในพระพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชา โดยตั้งแต่ช่วงเช้า พุทธศาสนิกชน ได้ร่วมกิจกรรมเวียนเทียนรอบมณฑป วางเครื่องสักการะบูชา ก่อนร่วมประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และเจริญจิตภาวนา
พุทธศาสนิกชนที่ไปสักการะ พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ เปิดเผยว่าตั้งใจอยากมาทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล เพราะพระบรมราสีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ ที่อัญเชิญมาถือเป็นองค์จริงและเป็นองค์ดั้งเดิมที่ค้นพบในสถูปโบราณ ซึ่งไม่บ่อยนักที่จะถูกอัญเชิญจากอินเดียมาให้ประชาชนชาวไทยได้สักการะอย่างใกล้ชิด
เมื่อทราบข่าวว่ารัฐบาลอินเดียตกลงที่จะส่งพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ มายังประเทศไทย จึงถือโอกาสเดินทางมาสักการะ เป็นมหามงคลครั้งหนึ่งในชีวิต โดยที่ผ่านมาได้ยึดเอาหลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต และปลูกฝังลูกหลานให้ยึดหลักคำสอนพระพุทธศานาด้วย คือ ให้ตั้งมั่นในการทำความดี
นอกจากทำบุญ สักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ พุทธศาสนิกชนยังได้ชมนิทรรศกาลเกี่ยวกับพุทธประวัติจากประเทศอินเดีย ซึ่งนำมาจัดแสดงพร้อมกับจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา วันมาฆบูชา ด้วย และเนื่องจากมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมายังมณฑลท้องสนามหลวงจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงจัดระเบียบลดความแออัด โดยเปิดให้ประชาชนเข้าเวียนเทียนรอบมณฑป และสักการะ พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุคนละไม่เกิน 15-20 นาที เพราะสถานที่โดยรอบมณฑปรองรับได้อย่างจำกัด
ภาพจาก: กรมการศาสนา