"หุ่นยนต์" ทำงานแทนมนุษย์ "Titan" จาก RoboForce ช่วยมนุษย์ก้าวข้ามงานที่ไม่อยากทำ

โรโบฟอร์ส (RoboForce) สตาร์ทอัพด้านหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ AI ที่บุกเบิกระบบ โรโบเลเบอร์ (Robo-Labor) หรือระบบที่นำหุ่นยนต์ หรือ ปัญญาประดิษฐ์ AI เข้ามาทำงานแทนแรงงานมนุษย์ในภาคการผลิตหรือบริการที่ล้ำสมัย เปิดตัวหุ่นยนต์ควบคุมเคลื่อนที่ในรุ่นล่าสุดชื่อ ไททัน (Titan) ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ AI สำหรับงานอุตสาหกรรมในสภาพแวดล้อมกลางแจ้งที่สมบุกสมบัน และเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกเพื่อช่วยให้มนุษย์สามารถก้าวข้ามงานที่น่าเบื่อ สกปรก อันตราย ด้วยการใช้งานหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ AI เข้ามาช่วย
หุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ Titan
Titan ถูกออกแบบมาเพื่อปฏิบัติงานหลัก 5 ประการที่จำเป็นสำหรับภารกิจอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ ได้แก่ การหยิบ การวาง การกด การบิด และการเชื่อมต่อ หุ่นยนต์สามารถทำงานด้วยความละเอียดแม่นยำสูงถึง 1 มิลลิเมตร สำหรับการจัดการที่ละเอียดอ่อน มีน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 40 กิโลกรัม มีแขนที่ยืดได้ถึง 1,100 มิลลิเมตร และสามารถทำงานต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายในภาคอุตสาหกรรม โดยหุ่นยนต์ตัวนี้มีให้เลือกทั้งแบบฐานล้อและฐานตีนตะขาบ
หัวใจสำคัญของ Titan คือเทคโนโลยี โดเมนอินเทลลิเจ้น (Domain Intelligence) ที่ โรโบฟอร์ส (RoboForce) พัฒนาขึ้น ซึ่งเป็นการผสานรวมฮาร์ดแวร์และปัญญาประดิษฐ์เข้าด้วยกัน และประกอบกับการออกแบบฮาร์ดแวร์แบบโมดูลาร์ที่ยืดหยุ่น ทำให้หุ่นยนต์ตัวนี้มีพละกำลัง ความแม่นยำ ประสิทธิภาพ และความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อปฏิบัติงานในหลากหลายสาขาอุตสาหกรรม
การขยายตัวจากการระดมทุนในโรโบฟอร์ส (RoboForce)
การลงทุนล่าสุดนี้ทำให้โรโบฟอร์ส (RoboForce) ระดมทุนรวมไป 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 500 ล้านบาท หลังจากระดมทุนรอบเริ่มต้นไปแล้ว 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 300 ล้านบาทในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เงินทุนก้อนใหม่นี้จะถูกนำไปใช้ในการสนับสนุนการสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ที่ขยายใหญ่ขึ้นใน ซิลิคอนแวลลีย์ (Silicon Valley) ซึ่งจะมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยสำหรับการพัฒนาและทดสอบเทคโนโลยีหุ่นยนต์ อีกทั้งเดินหน้าสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถสูงทั้งในด้าน AI และหุ่นยนต์เพื่อเข้าร่วมทีมที่กำลังเติบโต
เป้าหมายในอนาคต
ในอนาคตโรโบฟอร์ส (RoboForce) มีเป้าหมายที่จะรุกตลาดสำคัญอย่างอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ อวกาศ การผลิต และการทำเหมือง ซึ่งจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐ ระบุว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากการบาดเจ็บและการขาดแคลนแรงงานอันเนื่องมาจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นในช่วงฤดูร้อน และอันตรายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ซึ่งปัจจุบันโรโบฟอร์ส (RoboForce) ได้วางแผนโครงการนำร่องหลายโครงการสำหรับปี 2025
การเข้ามาของโรโบฟอร์ส (RoboForce) และ Titan แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ชัดเจนว่า หุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ AI ที่มีความสามารถในการเคลื่อนที่และจัดการวัตถุได้หลากหลาย จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมทั่วโลก และช่วยยกระดับประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการทำงานได้อย่างมีนัยสำคัญ