รีเซต

ดาวโจนส์ พุ่ง 327.79 จุด ขานรับวัคซีนโควิดคืบหน้า

ดาวโจนส์ พุ่ง 327.79 จุด ขานรับวัคซีนโควิดคืบหน้า
TNN ช่อง16
24 พฤศจิกายน 2563 ( 06:55 )
192
ดาวโจนส์ พุ่ง 327.79 จุด ขานรับวัคซีนโควิดคืบหน้า

วันนี้ (24 พ.ย. 63) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (23 พ.ย.) ขานรับความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งรวมถึงวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัทแอสตร้าเซนเนกาและมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เตรียมเสนอชื่อนางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,591.27 จุด เพิ่มขึ้น 327.79 จุด หรือ +1.12% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,577.59 จุด เพิ่มขึ้น 20.05 จุด หรือ +0.56% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,880.63 จุด เพิ่มขึ้น 25.66 จุด หรือ +0.22%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก โดยดัชนีดาวโจนส์เคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน หลังจากมีข่าวความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยล่าสุดแอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยว่า วัคซีนต้านโควิด-19 ซึ่งทางบริษัทพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดมีประสิทธิภาพ 90% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 หลังจากที่บริษัทระบุว่าก่อนหน้านี้ว่า ผลการวิเคราะห์เบื้องต้นพบว่าวัคซีนมีค่าประสิทธิภาพเฉลี่ย 70%

ด้านไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี ได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) เมื่อวันศุกร์ เพื่อขออนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉิน ขณะเดียวกันมีรายงานว่า FDA ได้ให้การอนุมัติการใช้แอนติบอดีของ Regeneron ในการรักษาโรคโควิด-19 ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เคยได้รับก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า นายไบเดนเตรียมเสนอชื่อนางเยลเลนให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่ โดยนางเยลเลนเป็นหนึ่งในกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้ทำการรายงานสรุปเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจให้นายไบเดนรับทราบนับตั้งแต่เดือนส.ค.ที่ผ่านมา เมื่อนายไบเดนตอบรับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

ความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มสายการบิน และกลุ่มอุตสาหกรรม โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 8.22% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 2.58% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 4.47% ส่วนหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 5.97% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ดีดตัวขึ้น 1.49% หุ้น 3M บวก 0.72%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่เป็นปัจจัยหนุนตลาดเมื่อคืนนี้ ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 57.9 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 68 เดือน จากระดับ 56.3 ในเดือนต.ค. โดยดัชนี PMI อยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะขยายตัว ทั้งภาคการผลิตและบริการ

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ราคาบ้านเดือนก.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จาก Conference Board, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2563 (ประมาณการครั้งที่ 2), รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนต.ค.,

ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนต.ค., ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)



เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ข่าวที่เกี่ยวข้อง