สนธิกำลัง จับแรงงานเมียนมาทะลักชายแดนกาญจน์ 154 คน พร้อมผู้นำพา
เมื่อวันที่ 25 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 ผบ.กกล.สุรสีห์ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเฝ้าระวังป้องกัน และปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการลักลอบข้ามชายแดนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายหลังจากชุดปฏิบัติการข่าวกองกำลังสุรสีห์ รายงานว่า จะมีขบวนการนำพาผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย มาตามช่องทางธรรมชาติชายแดนด้าน จ.กาญจนบุรี
จากนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ จึงสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลาดตระเวน-ซุ่มตรวจ โดยสามารถจับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย จำนวน 154 คน เป็นชาย 104 คน และหญิง 50 คน และชายผู้ช่วยเหลือให้การซ่อนเร้น จำนวน 1 คน ใน 5 จุด ของพื้นที่ 3 อำเภอ คือ ที่บ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 และ ที่บ้านใหม่ห้วยน้ำขาว หมู่ 15 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี ที่บ้านท้ายเหมือง หมู่ 3 และ ที่บ้านบ้องตี้ล่าง หมู่ 2 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค และที่บ้านกองหม่องทะ หมู่ 2 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี
เบื้องต้นกลุ่มแรงงานให้การว่า พวกตนทั้งหมดเดินทางมาจาก จ.พญาตองซู, จ.มะละแหม่ง, จ.ย่างกุ้ง, จ.พะโค และ จ.ทวาย ประเทศเมียนมา โดยจะเข้าไปทำงานที่ จ.สมุทรสาคร, จ.สมุทรสงคราม, จ.ชลบุรี และ กรุงเทพฯ บางส่วนจ่ายเงินให้นายหน้าแล้ว บางส่วนจ่ายเมื่อถึงปลายทาง คนละ 15,000 – 30,000 บาท/คน แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน
หลังจากทั้งหมดยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี สภ.ไทรโยค และ สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อกล่าวหาฐานลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ส่วนผู้นำพาถูกกล่าวหาว่า “ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น และช่วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม”
ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองที่ถูกจับกุม ส่วนหนึ่งพบว่า เป็นแรงงานต่างด้าวที่เคยถูกจับกุมและส่งกลับประเทศไปแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังลักลอบเดินทางกลับเข้ามาอีก ขณะที่แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า ปัจจุบันยังมีแรงงานต่างด้าวที่มาหลบพักคอยอยู่ในพื้นที่บริเวณสันแดนไทย – เมียนมา เตรียมที่จะลักลอบเข้ามาในประเทศไทยอีกเป็นจำนวนมาก