สุลต่านแห่งรัฐยะโฮร์ของมาเลเซีย เรียกร้องล็อกดาวน์ หลังพบผู้ติดเชื้อโควิดสูง
Malaysia: สุลต่านแห่งรัฐยะโฮร์ของมาเลเซีย เรียกร้องให้รัฐบาลมาเลเซียพิจารณาใช้มาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ หากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
สุลต่านอิบราฮิม อิสกันดาร์ แห่งรัฐยะโฮร์ ออกแถลงการณ์ระบุว่า การที่มาเลเซียพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่กว่า 7,400 คนเมื่อวานนี้ (27 พฤษภาคม) ถือเป็นเรื่องน่าวิตกกอย่างยิ่ง ทางการจำเป็นต้องให้ประชาชนส่วนใหญ่อยู่แต่ในบ้านเพื่อตัดห่วงโซ่การระบาด เนื่องจากเชื้อโควิด-19 แพร่กระจายผ่านการรวมตัวของผู้คน
พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า ชาวมาเลเซียต้องปฏิบัติตามข้อบังคับ ฝึกล็อกดาวน์ตัวเอง หรือป้องกันการเสี่ยงติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น จำเป็นต้องมีข้อบังคับที่ใช้ครอบคลุมทั่วทุกระดับ เพื่อมั่นใจว่ามาตรการล็อกดาวน์สามารถป้องกันสถานการณ์เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นกับทุกคน และรัฐบาลมาเลเซียควรพิจารณาใช้มาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบเช่นกัน หากยอดผู้ป่วยติดเชื้อไม่มีวี่แววลดลง
การออกมาเรียกร้องให้ล็อกดาวน์ทั่วประเทศของสุลต่านรัฐยะโฮร์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันพุธ (26 พฤษภาคม) เป็นวันเดียวกับที่มาเลเซียพบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 7,478 คน ทำสถิติมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดในประเทศ และมียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่สูงกว่าวันละ 6,000 คนติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ในขณะที่กำลังเผชิญกับปัญหาในการควบคุมการระบาดระลอกที่สาม
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลมาเลเซียประกาศใช้คำสั่งควบคุมการเคลื่อนไหวทั่วประเทศ หรือ MCO ไปถึงวันที่ 7 มิถุนายนนี้ เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 แต่ประชาชนบางส่วนกลับไม่พอใจที่ภาคเศรษฐกิจยังคงได้รับอนุญาตให้ดำเนินการต่อไปได้
ขณะที่ นายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดิน ยัสซิน ของมาเลเซียเตือนว่า การใช้มาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบดังเช่นในเดือนมีนาคมปีก่อน ที่สั่งปิดกิจการทุกภาคส่วนจะช่วยรับประกันความปลอดภัยของประชาชน แต่ก็เสี่ยงต่อการทำให้เศรษฐกิจมาเลเซียล่มสลาย ขณะนี้ มาเลเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 533,300 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 2,400 คน