ถอดรหัสคำประกาศแพทองธาร ปมแรงงานกัมพูชาในเกมภูมิรัฐศาสตร์

ถอดรหัสคำประกาศ “แพทองธาร” แรงงานกัมพูชาไม่ใช่แค่ประเด็นมนุษยธรรม แต่คือสมการภูมิรัฐศาสตร์
คำประกาศบนเฟซบุ๊กของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า “ประเทศไทยไม่เคยมีแนวคิดผลักดันแรงงานต่างด้าวออกนอกราชอาณาจักร” และ “ไม่ควรนำความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง” อาจฟังดูเป็นคำแถลงทั่วไป
แต่หากพิจารณาให้ลึกขึ้น คำพูดเหล่านี้คือการวางหมากสำคัญทางการทูตในบริบทที่แรงงานกัมพูชาเริ่มถูกดึงเข้ามาอยู่กลางเวทีความขัดแย้งเชิงอำนาจระหว่างรัฐ ท่ามกลางการเตรียมเลือกตั้งของกัมพูชา และการหารือทางชายแดนผ่านกลไก JBC
กัมพูชาเคลื่อนไหว ไทยขีดเส้น
ผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ซึ่งเป็นแกนนำพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ประกาศต่อหน้าสมาชิกพรรคว่า รัฐบาลเตรียมรถบัสกว่า 400 คัน รองรับแรงงานที่ต้องการเดินทางกลับจากไทย พร้อมย้ำว่า “พรรคต้องชนะการเลือกตั้งปี 2570–2571 เพื่อปกป้องประเทศ”
ท่าทีนี้มีนัยมากกว่าการบริหารแรงงาน เพราะเป็นการนำประเด็นแรงงานข้ามชาติไปเชื่อมโยงกับวาระทางการเมืองภายใน สร้างภาพของรัฐบาลเข้มแข็งที่สามารถควบคุมพลเมืองของตน แม้จะอยู่นอกพรมแดน
ไทยไม่เล่นเกมเดียวกัน แต่ไม่ยอมเป็นเบี้ย
นายกรัฐมนตรีแพทองธารเลือกใช้ถ้อยคำที่เน้น “สิทธิมนุษยชน ความหลากหลาย และความร่วมมือ” แทนการตอบโต้ด้วยท่าทีแข็งกร้าว การให้คำมั่นว่าจะไม่ใช้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นเครื่องมือทางการเมือง คือการวางกรอบว่าประเด็นแรงงานไม่ควรกลายเป็นชนวนขัดแย้ง
นี่คือการส่งสารทางยุทธศาสตร์ว่ารัฐบาลไทยเลือกจะรักษาเสถียรภาพระหว่างประเทศ และปกป้องภาพลักษณ์ของประเทศในเวทีภูมิภาค มากกว่าการแลกหมัดบนสนามการเมืองระหว่างประเทศ
เมื่อแรงงานกลายเป็นหมากสำคัญในเกมอำนาจ
แรงงานกัมพูชาราว 500,000 คนในไทย ไม่ใช่แค่แรงงานราคาถูก แต่เป็นพลังขับเคลื่อนภาคเกษตร ก่อสร้าง และบริการ ท่ามกลางภาวะขาดแคลนแรงงานไทยในหลายอุตสาหกรรม การเคลื่อนย้ายแรงงานจำนวนมากออกจากระบบ อาจกระทบเสถียรภาพเศรษฐกิจในบางพื้นที่ทันที
การเตรียมรถบัสจากฝั่งกัมพูชา จึงไม่ใช่แค่ “บริการขนส่ง” แต่กลายเป็น “เครื่องมือกดดัน” ที่ส่งสัญญาณถึงทั้งประชาชนในประเทศตน และรัฐบาลไทยว่า กัมพูชาพร้อมแสดงบทบาทเชิงรุกหากจำเป็น
แรงงานไม่ใช่แค่เรื่องของคน แต่คือจุดทดสอบความเป็นรัฐ
คำประกาศของแพทองธารจึงไม่ใช่เพียงการตอบโต้ แต่คือการขีดเส้นชัดเจนว่าประเทศไทยจะไม่เดินเกมแรง ด้วยการปกป้องแรงงานตามหลักสิทธิ ยอมรับสิทธิเสรีภาพในการตัดสินใจของแรงงาน และเปิดพื้นที่สำหรับการเจรจาทวิภาคีมากกว่าการเผชิญหน้า
การเลือกถ้อยคำอย่างระมัดระวังจึงสะท้อนว่ารัฐบาลไทยกำลังใช้ “วาทกรรมสร้างสมดุล” ระหว่างภาพลักษณ์ของประเทศที่มีมนุษยธรรม กับการรักษาอธิปไตยและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
คำประกาศที่มากกว่าคำประกาศ
คำพูดของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร คือการสื่อสารนโยบายแรงงานข้ามชาติในแบบที่ไม่ตัดสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ขีดเส้นไม่ให้แรงงานกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองของใคร
ขณะเดียวกัน ยังเป็นการยืนยันว่า ไทยพร้อมรับมือกับทุกแรงกดดัน ด้วยความมั่นคงในหลักการ ไม่หวั่นไหวต่อการเคลื่อนไหวที่อาจซ่อนวาระการเมืองอยู่ภายใน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
