ตุรกีชี้ 'วัคซีนโควิด-19 ฝีมือจีน' มีประสิทธิภาพสูงกว่า 91%
อังการา, 25 ธ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (24 ธ.ค.) ฟาห์เรตติน โคกา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของตุรกี แถลงว่าวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของจีนชุดแรกจะมาถึงตุรกีในวันจันทร์ (28 ธ.ค.) และวัคซีนตัวดังกล่าวมีประสิทธิภาพถึงร้อยละ 91.25 จากการทดลองในตุรกี
"เรามั่นใจว่าวัคซีนตัวนี้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยสำหรับชาวตุรกี" โคกา กล่าวในงานแถลงข่าวแห่งหนึ่ง และเอ่ยถึงการทดลองวัคซีนตัวดังกล่าวในตุรกีว่า "อัตราการป้องกันในช่วงแรกของวัคซีนตัวนี้อยู่ที่ร้อยละ 91.25 และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ "
โคกากล่าวว่า การทดลองระยะที่ 3 ของวัคซีนชนิดเชื้อตายที่ชื่อว่าโคโรนาวัค (CoronaVac) ซึ่งผลิดโดยซิโนวัค (Sinovac) บริษัทผลิตวัคซีนสัญชาติจีน ได้เริ่มต้นขึ้นในตุรกีเมื่อวันที่ 14 ก.ย. และไม่พบการแสดงอาการที่สำคัญใดๆ ระหว่างการทดลองในตุรกี
(แฟ้มภาพซินหัว : เจ้าหน้าที่ตรวจสอบตัวอย่างของวัคซีนโควิด-19 ชนิดเชื้อตาย ณ ห้องทดลองของบริษัทซิโนวัค ไบโอเทค ในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน 16 มี.ค. 2020)
โคกาเผยว่า วัคซีนดังกล่าวของจีนชุดแรกจำนวน 3 ล้านโดสจะมาถึงตุรกีในวันจันทร์ (28 ธ.ค.) หลังจากรัฐบาลตุรกีได้ลงนามข้อตกลงการจัดซื้อจำนวน 50 ล้านโดส โดยจะมาถึงตุรกีทั้งหมดภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์
โคกาชี้ว่าตุรกีเลือกวัคซีนของซิโนวัคเนื่องจากเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย โดยกล่าวว่า "การฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตายเป็นการฉีดวัคซีนที่เก่าแก่ที่สุดที่เรารู้จัก มันเป็นวิธีการที่เรามั่นใจว่าจะให้ผลดีอย่างที่เราเคยใช้มา"
(แฟ้มภาพซินหัว : เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจเชื้อโควิด-19 จากผู้หญิงคนหนึ่งในกรุงอังการา เมืองหลวงตุรกี วันที่ 15 ธ.ค. 2020)
โคกากล่าวว่า รัฐบาลตุรกียังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) และไบโอเอ็นเทค (BionTech) เพื่อซื้อวัคซีนโควิด-19 เช่นกัน พร้อมเสริมว่าคนกลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีนคือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และตุรกีจะสามารถแจกจ่ายวัคซีนให้แก่ประชาชน 1.5 ล้านคน หรืออาจมากถึง 2 ล้านคนได้ในแต่ละวัน และชี้ว่าเขาเองก็จะเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรกที่รับวัคซีนของจีน
นอกจากนี้ โคกายังบอกว่าผู้เชี่ยวชาญตุรกีไม่ตรวจพบการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 ในตุรกีอย่างที่พบในสหราชอาณาจักร
เมื่อวันพฤหัสบดี ตุรกีมีรายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 18,102 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยสะสมทั่วประเทศอยู่ที่ 2,100,712 ราย และยอดผู้ป่วยหายดีอยู่ที่ 1,935,292 ราย ในขณะที่ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 254 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 19,115 ราย
ทั้งนี้ ตุรกีมีรายงานตรวจพบผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกวันที่ 11 มี.ค. และตุรกีจะเข้าสู่ภาวะล็อกดาวน์เป็นเวลา 4 วัน นับตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค.