พี่สาวชายคลั่ง แจ้งความเอาผิด ตำรวจปืนโหด ยันมีคลิปชัดเจน กำนันยันลูกบ้านต้องไม่ตายฟรี
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม นายกิตติศักดิ์ จำปา กำนันตำบลบ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม พร้อมด้วย นางทองคำ เคนโสม อายุ 56 ปี ชาวบ้านค้อ หมู่ 1 ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม และญาติผู้เสียหาย กรกรณีเกิดเหตุ ตำรวจยิงชายคุ้มคลั่งเสียชีวิต เหตุเกิดช่วงเที่ยงวันที่ 25 กรกฎาคม 2563 บริเวณหน้าบ้านบ้านพักเลขที่ 274 หมู่ 1 บ้านค้อ ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ เป็นเหตุให้ นายลำเพย จำปา อายุ 48 ปี ซึ่งมีอาการเมาสุรา ถูก ร.ต.ท.วิจิตร บางปลา รองสารวัตรงานป้องกันปราบปราม สภ.โพนสวรรค์ ใช้อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 ม.ม. ยิงจนเสียชีวิต หลังเข้าไประงับเหตุ จึงมีการต่อสู้ทำร้ายร่างกายกัน โดยผู้ตายใช้อาวุธมีดฟันตำรวจได้รับบาดเจ็บ ทำให้ทางด้าน ตำรวจ ชักปืนยิง รวม 4 นัด จนเสียชีวิต จนกระทั่งทางญาติ ได้นำคลิปหลักฐานออกมาโพสต์ ร้องทุกขอความเป็นธรรมแก่ผู้ตาย พร้อมระบุว่า ตำรวจกระทำเกินกว่าเหตุ จึงได้นำหลักฐาน เกี่ยวข้อง เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ชมศรีหาราชพร สารวัตรสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ เพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับ ร.ต.ท.วิจิตร บางปลา รองสารวัตรงานป้องกันปราบปราม สภ.โพนสวรรค์ ฐานความผิดเจตนาฆ่าผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย และเอาผิดทางวินัยกรณีกระทำเกินกว่าเหตุ ส่วนตำรวจที่ก่อเหตุล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพนม
เบื้องต้น ทางด้าน พ.ต.อ.กวีศักดิ์ สุขบาง ผกก.สภ.โพนสวรรค์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้อง รวมถึงพนักงานสอบสวน เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อจะได้สอบสวนผู้ถูกกล่าวหาตามขั้นตอน นอกจากนี้จะได้เตรียมส่งศพผู้เสียชีวิต ไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น เพื่อชันสูตรหาสาเหตุโดยละเอียดประกอบการดำเนินคดี ตามกฎหมาย แต่ยังติดปัญหาวันหยุดยาว คาดว่าจะส่งไปตรวจได้ในวันทำการ โดยทางตำรวจยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนแนวทางการดำเนินคดี จะมีการสอบสวนทางผู้ถูกกล่าวหา รวมถึงพยานหลักฐาน รวมถึงคลิปเหตุการณ์ เบื้องต้นได้รับเป็นคดีแล้ว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะได้ เร่งสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหาตำรวจ ในข้อหาหลักคือ ประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนความผิดอื่นๆ ยังรอการสรุปพยานหลักฐานทั้งหมด
นอกจากนี้ในส่วนของผู้เสียชีวิตทางตำรวจจะได้พิจารณาแจ้งข้อหาตามความผิดที่ทำร่ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ตามขั้นตอน ส่วนการดำเนินการทางวินัยของตำรวจ จะได้เสนอผู้บังคับบัญชา ดำเนินการต่อไป ซึ่งทางตำรวจยืนยันว่า จะดำเนินคดีตรงไปตรงมา ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน โดยคลิปหลักฐานจะเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา กรณีทางญาติร้องทุกข์ว่า ตำรวจกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ จะต้องมีกระบวนการสอบสวน ว่า มีการปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอน หรือตามยุทธวิธีหรือไม่ ขณะนี้กำลังรวบรวมหลักฐานเสนอผู้บังคับบัญชา ออกคำสั่งเกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตามยืนยันตำรวจจะไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพราะกระบวนการทางกฎหมาย กำกับดูแลทุกขั้นตอน
ด้าน นายกิตติศักดิ์ จำปา กำนันตำบลบ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตนได้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับเจ้าหน้าที่ รวมถึงสอบถามญาติพี่น้องผู้ตาย ชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ ยอมรับว่า การกระทำของตำรวจขาดคุณธรรม ขาดสติในการทำงาน ยิ่งดูคลิปหลักฐานประกอบ ยิ่งรู้สึกหดหู่ในการทำงานของตำรวจ เพราะเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ทั้งที่ช่วงเข้าไปควบคุมเหตุผู้ตายจะพยายามหนี เพราะผู้ตาย เป็นลูกบ้านตน เคยมีพฤติกรรมเมาสุราอาละวาด แต่ไม่เคยมีประวัติทำร้ายร่างกายใครมาก่อน หากมีการแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือตำรวจมา ทุกครั้ง จะหนีออกจากบ้านไป พอหายเมา จะเป็นคนที่มีสติ ทำงานขยัน ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร จะมีปัญหาช่วงเมา
แต่ในวันเกิดเหตุข้อเท็จจริงคือ ตำรวจเปิดฉากถีบรถจักรยานยนต์ ผู้ตายล้ม และพยายามเอาไม้ง่ามเข้าไปจับกุมตัว ทั้งที่ผู้ตายไม่ได้คิดต่อสู้ จากนั้นตำรวจเกิดพลาดไม้ง่ามหัก ทางผู้ตายจึงพยายามสู้ขันขืน จนทำร้ายร่างกายกัน เอามีดฟันไปที่ตำรวจ แต่ยังช่วยเหลือตัวเอง ได้ จึงชักปืนยิงที่ ขาผู้ตาย 2 นัด ทำให้ผู้ตายนั่งทรุดกับพื้น ทางญาติพยายามเข้าไปร้องขอชีวิต ให้หยุด เพราะคนตายหมดทางสู้ แต่ทางตำรวจกับใช้อารมณ์ ในการทำงาน เดินเข้าไปเตะซ้ำ และจ่อยิงซ้ำอีก 2 นัด จนเสียชีวิต
กำนัน นายกิตติศักดิ์ จำปา กล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่พยานเห็นเหตุการณ์ แต่มีคลิปหลักฐานชัดเจน ตำรวจทำงานขาดสติ แทนที่จะขอกำลังสนับสนุน หรือเรียกผู้นำท้องถิ่น มาควบคุม หรือปล่อยผู้ตายไปจากจุดเกิดเหตุ เพื่อหาทางระงับเหตุ เนื่องจากผู้ตายยังไม่ได้ทำร้ายใคร
อย่างไรก็ตาม ลูกบ้านตนจะต้องไม่ตายฟรี ตำรวจที่ยิงจะต้องถูกดำเนินคดี และรับผิดชอบความสูญเสียที่เกิดขึ้น ความสูญเสียครั้งนี้ มันโหดร้ายเกินไป นอกจากนี้ช่วงการดำเนินคดี จะได้เสนอให้มีการย้ายตำรวจที่ก่อเหตุออกจากพื้นที่ เพราะเกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องคุกคามข่มขู่ครอบครัวผู้เสียชีวิต