BEM เจรจาคมนาคม ตั๋วร่วมรถไฟฟ้า 40 บาท

#BEM #ทันหุ้น – คมนาคม ชี้ พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ช่วยกดเพดานค่าโดยสารรถไฟฟ้าไม่เกิน 40 บาท จ่อหารือคลัง 29 ตุลาคมนี้ สรุปจะซื้อสัมปทานหรือไม่ ย้ำยึดหลักวินัยคลัง หนี้สาธารณะต้องไม่เกิน 70% ด้าน BEM พร้อมเจรจารัฐตั๋วร่วมและเพดานค่าโดยสาร  นักวิเคราะห์มองบวกเป้า BEM  9.75 บาท ไม่รวมอัพไซด์เดินรถสีม่วงใต้และทางด่วน 2 ชั้น ส่วน BTS เป้า 4.90 บาท

                นายพิพัฒน์  รัชกิจประการ  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า กระทรวงคมนาคมได้เตรียมศึกษาแนวทางการกำหนดเพดานอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 40 บาท จากปัจจุบันอัตราค่าโดยสารสูงสุดรวมส่วนต่อขยายต่างๆ อยู่ที่ 62 บาทต่อเที่ยว โดยจะยึดถือพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม (พ.ร.บ. ตั๋วร่วม) เป็นหลักในการดำเนินการ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ประชาชน

                “ตั๋วร่วมมีจุดมุ่งหมาย เพื่อให้ผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะสามารถใช้ตั๋วใบเดียว สามารถใช้ร่วมกันได้ทั้งหมดในระบบที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นมีความเป็นไปได้ว่าจะเริ่มจากระบบรถไฟฟ้าสาธารณะก่อน หลักใหญ่ใจความตั๋วร่วมคือการทำให้ผู้ใช้บริการไม่จำเป็นต้องเสียค่าแรกเข้าหลายครั้ง หากเปลี่ยนสาย ผู้โดยสารจะจ่ายค่าแรกเข้าเพียงครั้งเดียว และหาวิธีคำนวณค่าโดยสารในอัตราที่เหมาะสม  นับเป็นช่องว่างที่รัฐสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ และยังช่วยในการ จำกัดเพดาน ราคาค่าโดยสารได้อีกด้วย”

                สำหรับการซื้อคืนสัมปทานเดินรถไฟฟ้าจากภาคเอกชนนั้น กระทรวงคมนาคมจะหารือร่วมกับกระทรวงการคลังในวันที่ 29 ตุลาคม 2568 ที่จะถึงนี้ โดยจะคำนึงถึงกรอบการบริหารหนี้สาธารณะของประเทศที่กำหนดไว้ไม่ให้เกิน 70% ของ GDP เป็นหลัก

                “การซื้อคืนสัมปทานจะส่งผลดีในระยะกลาง - ยาว แต่แนวทางการดำเนินงานต้องไม่กระทบต่อหนี้สาธารณะ นายกรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้กระทรวงการคลังไปหาวิธีการดำเนินการ”

@ BTS – BEM ร่วมคนละครึ่ง

                ส่วนโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ที่จะเริ่มในวันที่ 29 ตุลาคม 2568 นี้ประชาชนสามารถใช้ได้กับระบบขนส่งสาธารณะทั้ง ขสมก.  บขส. รถไฟฟ้าทั้ง BTS และ BEM  ถือเป็นการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมตามนโยบายรัฐบาล

                “ระบบขนส่งสาธารณะในสังกัดกระทรวงคมนาคม ได้ดำเนินงานระบบหลังบ้านร่วมกับธนาคารกรุงไทย เตรียมพร้อมให้บริการ “ค่าโดยสารคนละครึ่ง” เรียบร้อยแล้ว ถือเป็นก้าวแรกของนโยบายลดค่าครองชีพ”

@ BEM พร้อมร่วมมือ

                ดร.สมบัติ  กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เปิดเผย “ทันหุ้น” ว่า BEM เตรียมความพร้อมเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” สำหรับค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินภายใต้สัมปทาน และสายสีม่วงภายใต้สัญญาเดินรถ โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 นี้จนสิ้นสุดโครงการ

                สำหรับแนวนโยบายการใช้ “ตั๋วร่วม” และหรือนโยบายค่าโดยสารอัตราสูงสุด อัตราเดียว  ตลอดจนการเจรจาซื้อคืนสัมปทานเดินรถไฟฟ้า นั้น เบื้องต้นบริษัทพร้อมให้ความร่วมมือ โดยอยู่ระหว่างรอความชัดเจนของหน่วยงานภาครัฐ

                “บริษัทพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เมื่อไหร่ที่ให้เข้าไปเจรจาก็พร้อมรับฟังแนวนโยบาย ส่วนแนวทางปฏิบัติก็ต้องยึดหลักการดูแลผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นด้วย”

@ หนุนทั้ง BTS-BEM

                นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุ การที่รัฐบาลผลักดันนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 40 บาท ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งเป้าให้สามารถดำเนินการได้ภายในรัฐบาลชุดปัจจุบันก่อนยุบสภาในเดือนมกราคม 2569 รวมถึงการที่โครงการคนละครึ่งพลัส สามารถใช้ชำระค่าโดยสารในระบบรถไฟฟ้าได้ เป็นปัจจัยบวกเล็กน้อยกับทั้ง BTS และ BEM

                เบื้องต้นประเมินว่าปริมาณผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้ามีแนวโน้มเติบโตได้ดีกว่าอัตราการเติบโตปกติราว 1-3% YoY เนื่องจากไตรมาส 4/2567 ที่ผ่านมามีการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาหนุน ประมาณการกำไรปกติของ BTS ทั้งปี 2568/2569 (เม.ย. 2568 - มี.ค.2569) ที่ 901 ล้านบาท คงคำแนะนำ “ถือ” ราคาเหมาะสมที่ 4.90 บาท และ BEM กำไรปี 2568 ที่ 3,846 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.1% YoY  จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 9.75 บาท บาท ยังมีโครงการสำคัญที่อาจเป็นปัจจัยบวกต่อมูลค่าหุ้นของบริษัท ได้แก่ สัญญาเดินรถและบำรุงรักษารถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ราว 0.5 - 1.0 บาทต่อหุ้น และโครงการทางด่วน 2 ชั้นราว 1.5 บาทต่อหุ้น ซึ่งยังไม่ได้ถูกรวมอยู่ในมูลค่าประเมินปัจจุบัน