SCIแย้มQ1/68พลิกกำไร เล็งร่วมทุนผลิตสินค้าใหม่

#SCI #ทันหุ้น - SCI แย้มผลงานไตรมาส1/68 พลิกมีกำไร จากรายได้เติบโต ยืนยันตั้งสำรองขาดทุน บริษัทย่อยที่เมียนมาเบ็ดเสร็จไปหมดแล้ว อยู่ระหว่างหากลุ่มทุนมาซื้อต่อ พร้อมศึกษาร่วมทุนกันพันธมิตร ผลิตเสาสายส่งไฟฟ้า 8 เหลี่ยม เพิ่มฐานรายได้ใหม่ ส่วนการลงทุน Bitcoin เริ่มขายกำไรบ้าง คงถือราว 40 เหรียญ คงเป้ารายได้ปี 2568 ราว 2 พันล้านบาท
นายเกรียงไกร เพียรวิทยาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) หรือ SCI ผู้ประกอบธุรกิจผลิต-จำหน่ายเสาไฟฟ้าแรงสูง และตู้สวิตช์บอร์ด เปิดเผยกับ "ทันหุ้น" ว่า แนวโน้มผลประกอบการในปี 2568 นี้ จะไม่ถูกกดดันจากภาระการตั้งสำรองขาดทุนใน บริษัท เอสซีไอ เมทัล เทค จำกัด (เมียนมา) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCI ถือหุ้นอยู่ 96.19% แล้ว เนื่องจากทยอยบันทึกทางบัญชีไปทั้งหมดตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ดังนั้น รายได้ที่เกิดขึ้นจากการรับรู้งานช่วงไตรมาส 1/2568 ที่เพิ่งผ่านมา จะมากพอให้บริษัทพลิกมีกำไรได้ จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 31.90 ล้านบาท
@งบครึ่งปีหลังแจ่ม
อีกทั้งบริษัทประเมินทั้งรายได้และกำไรจะดีขึ้นอย่างชัดเจนช่วงครึ่งปีหลัง จากโอกาสรับงานเพิ่มเติม เช่น งานรับเหมาก่อสร้างในต่างประเทศ และมี 2-3 งานขนาดใหญ่ที่คาดจะรู้ผลการเข้าไปเสนอรับงานและลงนามสัญญาได้ไตรมาส 3/2568 หากได้มาจะทำให้บริษัทมีงานรองรับยาวระยะ 4 ปี นอกจากนี้บริษัทมีนโยบายจะพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ขยายฐานตลาด
ทำให้ทั้งปี 2568 บริษัทคาดจะมีรายได้รวมใกล้เคียง 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีรายได้ 1,332.67 ล้านบาท
สำหรับปัจจุบันรายได้หลักกว่า 60-70% มาจากงานประเภทเสาไฟฟ้าแรงสูง จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ (กฟผ.) และยังมีรายได้จากงานตู้สวิตช์บอร์ด สายไฟฟ้าและอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง แต่บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมทุนกับพันธมิตรเพื่อผลิตเสาเหล็กทรง 8 เหลี่ยม (Monopole) รองรับสายส่งไฟฟ้า เบื้องต้นคาดใช้เงินลงทุนรวม 2 ฝ่ายราว 30 ล้านบาท คาดผลการศึกษาจะนำไปสู่การผลิตได้ภายในปีนี้ โดยสินค้าประเภทนี้มีความต้องการในตลาดอยู่แล้ว
@ไร้ผลกระทบแผ่นดินไหว
ส่วนเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2568 นั้น บริษัทย่อยในเมียนมา ไม่ได้รับความเสียหายใดเพราะธุรกิจมีที่ตั้งในนิคมอุตสาหกรรมติลาวา เมืองย่างกุ้ง ซึ่งห่างจากศูนย์กลางจุดกำเนิดแผ่นดินไหวพอสมควร (ระยะทางอากาศห่างกันราว 600 กิโลเมตร) นอกจากนี้แผนการหากลุ่มผู้ร่วมทุนใหม่เข้ามาถือหุ้นใหญ่แทนยังอยู่ในขั้นตอนเจรจา คาดหวังจะสรุปผลภายในปีนี้เช่นกัน
นอกจากนี้การลงทุน Bitcoin ของบริษัทถือว่าประสบความสำเร็จ ต้นทุนอยู่ราว 19,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ขณะที่ระยะนี้เคลื่อนไหวราว 84,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา มีถือครองประมาณ 40 เหรียญ มีทยอยขายทำกำไรบ้างเล็กน้อย ไม่มีซื้อเพิ่มเติม ซึ่งเป็นไปตามกรอบนโยบายการวงเงินลงทุนที่ได้รับอนุมัติจากมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น
อนึ่งสำหรับผลการดำเนินงานปี 2567 มีรายได้รวม 1,332.67 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 272.05 ล้านบาท สำหรับสินทรัพย์รวมของกลุ่มบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,119.93 ล้านบาท ลดลง 614.76 ล้านบาท หรือลดลง 35.44% เมื่อเทียบกับมูลค่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 ที่ 1,734.69 ล้านบาท