รีเซต

บลจ.อีสท์สปริงพาลุยสหรัฐ เน้นลดเสี่ยงขาดทุนเงินต้น

บลจ.อีสท์สปริงพาลุยสหรัฐ เน้นลดเสี่ยงขาดทุนเงินต้น
ทันหุ้น
25 กันยายน 2566 ( 23:12 )
47

บลจ.อีสท์สปริง มองหุ้นสหรัฐS&P500 แนวโน้มกำไรปี 2567 โตต่อ แต่รับยังมีความผันผวนสูงแม้แนวโน้มเศรษฐกิจยังดี แต่ดอกเบี้ยที่อยู่ระดับสูงกดกำลังซื้อ รวมถึงปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ขยายสู่เรื่องของเทคโนโลยี แนะลงทุนเน้นลดความเสี่ยงขาดทุนเงินต้นในพันธบัตรรัฐ และเพิ่มโอกาสจากวอร์แรนต์ กับกองทุนตัวใหม่ ES-USDCR1YC ชูจุดเด่นเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากความผันผวนหุ้นสหรัฐ

 

นางสาวดารบุษป์  ปภาพจน์  กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง กล่าวว่า การลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐในช่วงปลายปีนี้จนถึงปีหน้าถือว่าค่อนข้างมีความท้าทาย เนื่องจากมีทั้งปัจจัยบวก และปัจจัยลบที่อาจเข้ามา ประเด็นที่น่าสนใจและเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐ มีโอกาสที่จะเติบโตได้ ประเด็นหลักจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจของสหรัฐที่สามารถมีแนวโน้มไม่เกิดภาวะถดถอย และสามารถ Soft Landing ได้

 

*กำไรบจ.หุ้น S&P500 โต

ขณะที่เงินเฟ้อค่อยๆ ลดลงอย่างช้าๆ ขณะที่แนวโน้มทางเศรษฐกิจดังกล่าวส่งผลต่อการปรับประมาณกำไรของตลาดหุ้นสหรัฐ ที่เริ่มกลับมาเป็นบวกมากขึ้น โดยการเติบโตของกำไรบริษัทในดัชนี S&P500 ในปี 2567 ยังคาดการณ์เติบโตมากกว่า 10%

 

ขณะที่การดำเนินนโยบายการเงินจากการประชุม FOMC ในเดือนกันยายน ซึ่งล่าสุดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25-5.5%และทางเจอโรม พาวเวลล์ ยังเปิดช่องในการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้อีก 1ครั้งในปีนี้ หากประเมินจาก Dot Plot ถือว่าเป็นช่วงท้ายของวัฏจักรของการขึ้นดอกเบี้ย และโดยรวมถึงแม้จะมีปัจจัยบวกในตลาดหุ้นสหรัฐค่อนข้างเยอะ

 

อย่างไรก็ตามยังคงมีปัจจัยลบที่ต้องติดตาม คือประเด็นเรื่องของปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐและจีนที่มีประเด็นและขยายวงกว้างไปถึงเรื่องของเทคโนโลยี รวมถึงเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อาจส่งผลต่อกำลังซื้อ และการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐได้ และหากไปดูระดับราคา (P/E) ที่ซื้อขายกันในปัจจุบัน ถือว่าอยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ย ซึ่งอาจทำให้เกิดความผันผวนได้หากเกิดประเด็นเชิงลบที่เข้ามากระทบ

 

*ลดเสี่ยงขาดทุน

จากมุมมองดังกล่าว บริษัทได้เสนอขายกองทุนเปิดอีสท์สปริง US Double Structured Complex Return 1YC (ES-USDCR1YC) ระยะเวลาลงทุนประมาณ 1 ปี ซึ่งเป็นกองทุนที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดทุนเงินลงทุน พร้อมเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐ จากการลงทุนในสัญญาวอร์แรนต์ที่อ้างอิงกับราคา SPDR S&P500 ETF

 

กองทุน ES-USDCR1YC เปิดขายหน่วยลงทุนครั้งเดียวระหว่างวันนี้จนถึง 29 กันยายน 2566ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดย ES-USDCR1YC เป็นกองทุนรวมผสมประเภทที่มีการจ่ายผลตอบแทนซับซ้อน และมีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 79%โดยมีกลยุทธ์การลงทุนแบ่งเงินลงทุนออกเป็น 2 ส่วน

 

*แบ่งเงินลงทุน 2 ส่วน

โดยส่วนที่ 1 มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก ตราสารเทียบเท่าเงินฝากทั้งในประเทศ หรือต่างประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับสามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ประมาณ 98.58%ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เงินลงทุนเติบโตเป็น 100%ของเงินลงทุนทั้งหมดเมื่อครบอายุโครงการ ซึ่งการลงทุนในส่วนนี้จะมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) เต็มจำนวน

 

ส่วนที่ 2 กองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ประเภทสัญญาวอร์แรนต์ (Warrant) ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับราคา SPDR S&P500 ETF ซึ่งจะไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับการลงทุนในสัญญาดังกล่าว โดยจะลงทุนประมาณ1.4-1.5%ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน (อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม) เพื่อเปิดโอกาสให้กองทุนสามารถแสวงหาผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากการจ่ายผลตอบแทนด้วยอัตราการมีส่วนร่วม (Participation Rate) 50%ของการเปลี่ยนแปลงของราคา SPDR S&P500 ETF โดยหากปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลง 15% เมื่อเทียบกับ ณ วันจดทะเบียนกองทุนซึ่งตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญา

 

“จุดเด่นของกองทุนนี้คือความเสี่ยงต่อเงินต้นต่ำมากเพราะลงทุนเฉพาะในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรืออาจจะลงทุนเพิ่มในพันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศที่มีความน่าเชื่อถือ 2อันดับแรก (International Rating) รวมถึงโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีจากวอร์แรนต์ หากราคา SPDR S&P500 ETF ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 15%ซึ่งเหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากโดยทั่วไป และต้องการลงทุนในระยะประมาณ 1 ปี” นางสาวดารบุษป์ กล่าวพร้อมให้มุมมองการลงทุนว่า

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง