อนุทิน ปัดระบุวัน "ฉีดวัคซีนโควิด" เข็มแรกพร้อมนายกฯ
วันนี้( 25 ก.พ.64) ที่กระทรวงสาธารณสุข นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมด้วย ดร.สาธิตปิตุเตชะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมผู้บริหารสาธารณสุขจังหวัด ประธานชมรม อสม.ในการมอบหมายภารกิจ อสมพร้อม บอกต่อเรื่องฉีดวัคซีน covid 19
นาย อนุทิน ระบุว่า ไม่ขอระบุวันที่ตนและนายกรัฐมนตรีจะฉีดวัคซีนโควิด-19 หลังมีกระแสข่าวว่าจะฉีดวัคซีนวันที่ 27 หรือ 28 ก.พ.นี้ตามที่เคยประกาศไว้ ซึ่งเรื่องนี้ตนมอบให้ นพ.โสภณ เมฆธนประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการวัคซีน เป็นผู้กำหนดวัน เพื่อป้องกันคำครหา ทั้งแย่งวัคซีนประชาชน หรือให้ประชาชนฉีดก่อนเป็นหนูทดลอง แม้ว่าผู้นำทั่วโลกจะฉีดวัคซีนกันหมดแต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ เนื่องจากตนและ ดร.สาธิต ปิตุเตชะ มีหน้าที่ในการจัดหาวัคซีนเท่านั้นในการมาฉีดให้กับคนไทย หลังจากนี้การฉีดวัคซีนเป็นเรื่องของแพทย์ที่จะเป็นผู้พิจารณา
ส่วนกรณีการนำเข้าวัคซีนจากบ.แอสตราเซนากา จำนวน117,000 โดส เป็นส่วนหนึ่งในสัดส่วนวัคซีนที่ไทยสั่งซื้อจากบ.แอสตราเซนาการวม 61 ล้านโดส ซึ่งเป็นความพยายามที่นอกเหนือจากภารกิจปกติของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค และผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ที่ได้พยายามเจรจาจนได้มาเพื่อเป็นแผนสำรองลบข้อครหา ที่ว่าสธ.ดำเนินการล่าช้าไม่เตรียมแผนสำรองวัคซีน
ส่วนวัคซีนแอสตราเซนากา นำเข้าจากประเทศไหน นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ใช่ประเด็น โดยวัคซีนที่ได้มา มีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมาจากเครือข่ายของบริษัทที่มีอยู่ทั่วโลก พร้อมย้ำกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ปิดกั้น หากภาคเอกชนมีการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 เพียงแต่ขอให้ดำเนินการตามกระบวนการขึ้นทะเบียนจากอย.ให้ถูกต้อง
กรณีที่ตลาดนัดจตุจักร เป็นต้นตอการเกิดโรคนั้น นายอนุทิน ระบุว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะไปหาต้นต่อของการแพร่ระบาด เนื่องจากขณะนี้โควิด-19 มีการระบาดไปทั่วโลกแล้ว ทางเดียวตอนนี้คือ การควบคุมโรคและให้โรคนี้หมดไป จากเรื่องดังกล่าว อยากให้ฟังแต่สิ่งที่เป็นมงคล ไม่อยากให้ฟังเรื่องแสลงหูอย่าไปให้ความสนใจ
ทั้งนี้ ระหว่างประชุมทางไกล ได้ย้ำให้ อสม. สร้างความเข้าใจ ถึงความปลอดภัยของวัคซีนโควิด-19 รวมถึงความโปร่งใส่ของการจัดหาวัคซีน ย้ำเจ้าหน้าที่ อสม. และ สสจ.หากมีใครก็ตามแอบอ้างค่าใช้จ่ายในการรับฉีดวัคซีน ขอให้แพทย์สาธารณสุขจังหวัดดำเนินการทางกฎหมายทันที เนื่องจากรัฐบาลเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในฉีดวัคซีนฟรีแก่ประชาชน
นายอนุทิน ยังระบุอีกว่า ขณะนี้ไทย มีวัคซีนโควิด-19 แล้ว 3แสน1หมื่นโดส จากทั้งบ.ซิโนแวคและ บ.แอสตร้สเซนาก้า เพื่อคนไทย โดยวัคซีนล็อตแรกนี้ รัฐบาลรับเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่ตกลง ไว้กับผู้ผลิตวัคซีนทุกประการ
นอกจากนี้ ยังมีวัคซีนเข้ามาเพิ่มเติมจากบริษัทแอสตร้าเซนาก้า 117,000โดส จากการเจรจาของปลัดกระทรวงสาธารณสุขซึ่งไม่ได้อยู่ในไทม์ไลน์ตั้งแต่แรก สิ่งนี้ยืนยันได้ว่ากระทรวงมีแผนสำรองพร้อมเพื่อจัดหาวัคซีนเข้ามา
สำหรับวัคซีนโควิด-19 แอสตราเซนากา ที่ผลิต โดย บ.สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัดตามแผนเดือนมิถุนายน วัคซีนที่ผลิตจะเริ่มทยอยฉีดให้บริการกับประชาชน ตั้งเป้าเดือนแรกฉีดวัคซีนให้กับประชาชน 5 ล้านโดส เดือนต่อไป 10 ล้านโดส ซึ่งจะครอบคลุมประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมาก รวมถึงประชาชนกลุ่มอื่น
"ตอนนี้ประเทศไทยได้มีการจัดซื้อวัคซีนครบถ้วนแล้ว หลัง 1 ปีอาจจะต้องมีการฉีดอีกครั้ง หลังจากได้รับวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วครบ 2 โดส ซึ่งมีอายุป้องกันโรค 8เดือน "
ทั้งนี้ ถือว่าประเทศไทย มีวัคซีน 63 ล้านโดสที่ครอบคลุมในประชาชนกลุ่มเป้าหมาย พื้นที่เสี่ยงและประชาชนกลุ่มอื่นๆ คาดการณ์ ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ วัคซีนโควิด-19 จะมีออกมาอีกจำนวนมาก ตอนนั้นไทยจะเลือกเข้ามาฉีดให้กับประชาชนได้ ตอนนี้เราไมาจำเป็นที่จะต้องรีบหาจำนวนมากเก็บไว้ เนื่องจากวัคซีนซื้อมาแล้วต้องมีการใช้ทันที