CHปั้นสินค้าใหม่ดันยอด ลุยครึ่งปีหลังดีมานด์จ่อ

#CH #ทันหุ้น – CH เผยแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลัง 2567 สดใส ดีมานด์สินค้าโตต่อเนื่อง ทั้งปีมั่นใจรายได้ที่ 1.9-2 พันล้านบาท ตลาด OEM เติบโตแข็งแกร่ง ยอดต่างประเทศพุ่ง สหรัฐยังขยายตัวได้ดี เล็งออกสินค้าใหม่ปลายไตรมาส 3/2567 นี้ เป็นกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ สอดคล้องกับเทรดผู้บริโภค

นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ CH เปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลัง 2567 คาดว่าจะเห็นการเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยปีนี้บริษัทยังคงเป้ารายได้เติบโต 10% หรือมาอยู่ที่ 1,900-2,000 ล้านบาท โดยโครงสร้างรายได้แบ่งออกได้ 3 กลุ่มใหญ่ประกอบด้วย 1.กลุ่มผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้ง อยู่ที่ประมาณ 90% 2.กลุ่มผลิตภัณฑ์ปลากระป๋อง อยู่ที่ประมาณ 10%

และส่วนที่เหลือจะมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ขนมเพื่อสุขภาพ และรายได้อื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทสามารถผลักดันยอดขายได้ดีต่อเนื่อง ขณะที่ขนมไทยอบกรอบภายใต้แบรนด์ Bangkok Tasty (by CH) ขนมไทยอบกรอบ 5 รสชาติ ประกอบด้วย 1.ข้าวเหนียวมะม่วง 2.ข้าวเหนียวทุเรียน 3.ข้าวเหนียวถั่วดำ 4.กล้วยบวชชี 5.เผือกบวด กลุ่มผลไม้ชุบช็อกโกแลต และผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่แบรนด์ของบริษัทเอง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี

*เล็งครึ่งปีหลังโตต่อ

“แนวโน้มครึ่งปีหลัง 2567 สามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง ไม่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด ยอดขายยังทำได้ดี และยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ ทำให้ปีนี้รายได้ยังทำได้ตามเป้า จากครึ่งปีแรกก็เห็นรายได้ทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้  ซึ่งกลุ่มรายได้หลักของบริษัทคือผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้ง ทำยอดขายได้ดี และยิ่งการท่องเที่ยวดี ก็สามรถช่วยกระตุ้นยอดขายของบริษัทได้ต่อเนื่อง” นายศักดา กล่าว

บริษัทยังมีความพร้อมในการขยายฐานลูกค้า OEM รับผลิตสินค้าตามแบบที่ลูกค้ากำหนด หรือออกแบบร่วมกับผู้ประกอบการในรูปแบบ One Stop Service ชูจุดเด่นเทคโนโลยีการผลิตที่มีคุณภาพ มาตรฐานสูง  และยังขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเชิงรุกมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดในสหรัฐฝั่งตะวันออกและตลาดในยุโรป รวมถึงยังมีแผนขยายตลาดใหม่ใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันสินค้าใหม่ ของบริษัทเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ส่งผลต่อความต้องการสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้การฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศไทยก็เป็นปัจจัยหนุนให้อัตราการบริโภคขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้รายได้หลักมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้งหลักๆ ตามแผนขยายฐานการตลาด มีส่วนแบ่งการตลาดระดับสูง ดังนั้นบริษัทจึงได้มีแผนเพิ่มรูปแบบผลิตภัณฑ์จากผลไม้ โดยเพิ่มประเภทผลไม้อบกรอบ หรือรูปแบบอื่นๆ ซึ่งคาดว่าจะสามารถทยอยออกมาอย่างต่อเนื่องในปี 2567

ขณะเดียวกัน คาดว่ารายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ขนมเพื่อสุขภาพจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้ากำลังทำการตลาดอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน และคาดว่าจะเห็นการออกสินค้าใหม่ในช่วงปลายไตรมาส 3/2567 นี้ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่เติบโตขึ้นในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ สอดคล้องกับเทรนผู้บริโภค

*คุมต้นทุนดันมาร์จิ้น

นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งที่จะรักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่ควบคู่กับการบริหารต้นทุนภายในไม่ว่าจะเป็นการซื้อวัตถุดิบ การผลิตสินค้าให้อยู่ในฤดูกาล โดยการเก็บสินค้าเพื่อผลิตได้จำนวนมาก บริษัทมีการลงทุนห้องเก็บสินค้าเพื่อรองรับการเก็บวัตถุดิบ ทำให้สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้นด้วย