สาธิต เสนอล็อกดาวน์ภาคตะวันออก เล็งใช้กฎหมายกลุ่มเสี่ยงไม่รายงานตัว

รมช.สธ. ชี้สถานการณ์โควิด ยังระบาดเป็นวงกว้าง เล็งใช้กฎหมายจัดการคนกลุ่มเสี่ยงไม่รายงานตัว เสนอล็อกดาวน์ภาคตะวันออก ตั้งด่านสกัดเข้ม

นายสาธิต ปิตุเดชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการทำพิธีรับมอบโรงพยาบาลสนาม เพื่อรอง รับผู้ป่วยโควิดสามารถรองรับผู้ป่วยได้จำนวน 120 คน ถึงประเด็นการล็อกดาวน์ ว่า ปัจจุบันสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19 ) ระลอกใหม่ถือว่ามีความรุนแรงมากกว่าที่ผ่านมา โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดระยองมีการติดเชื้อขยายเป็นวงกว้าง ซึ่งนอกจากนี้จะมีการจัดตั้ง รพ.สนามแห่งนี้แล้ว ยังมีการจัดเตรียมแผนสำรองในการจัดตั้ง รพ.สนามเพิ่มขึ้นในพื้นที่ของ จ.จันทบุรี ในเขตของกองทัพเรือด้วยเช่นกัน

ปัญหาสำคัญของการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นเป็นเพราะขั้น ตอนการติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด ผู้ป่วย และผู้ที่มีความสุ่มเสี่ยง ไม่สามารถดำเนินการได้ครบ 100 % เนื่องจากพบว่าบางส่วนไม่ยินยอมมารายตัว มากักตัวหรือรับการรักษา แม้จะทราบผลแล้วว่ามีการติดเชื้อแต่กลับไม่ให้ความร่วมมือหลบเลี่ยงหนีหายไปซึ่งอาจไปส่งผลให้มีการติดเชื้อเพิ่มเติมได้จึงถือเป็นเรื่องที่น่าวิตก กรณีนี้ได้มอบหมายให้อำนาจแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ติดตามตัวมาสอบสวนโรคให้ได้ และหากยังไม่มารายงานตัวหรือฝ่าฝืนคำสั่งก็ให้ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายเด็ดขาด

ทั้งนี้ นายสาธิต กล่าวว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้นล่าสุดการประชุมของกระทรวงสาธารณสุขจึงมีแผนที่จะเสนอให้มีการ Lock Down ในพื้นที่ของภาคตะวันออก โดยมีแผนที่จะดำเนินการในระยะเวลา 28 วัน ทั้งนี้จะมีการปิดกั้นพื้นที่ช่อง ทางหลักที่มุ่งสู่ภาคตะวันออก ได้แก่ เขตจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเชื่อมต่อกับภาคอีสาน ทางเข้าจังหวัดชลบุรี ทั้งเส้นทางมอร์เตอร์เวย์ และถนนบูรพาวิถี โดยจะทำการตั้งด่านสกัดตรวจสอบเข้มทุกเส้นทางที่จะห้ามคนในออก คนนอกเข้า นอกจากจะมีความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งแผนดำเนินการนี้จะเร่งนำเสนอต่อ ศบค.ส่วนกลาง เพื่อขอรับความเห็นชอบภายในวันนี้