รีเซต

'สศช.' ชี้ ว่างงาน - หนี้ครัวเรือน - บาทแข็ง ฉุดศก.

'สศช.' ชี้ ว่างงาน - หนี้ครัวเรือน - บาทแข็ง ฉุดศก.
TNN ช่อง16
4 ธันวาคม 2563 ( 09:53 )
89

วันนี้(4ธ.ค.63) นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยถือว่าผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและถือว่าฟื้นตัวได้ดีและเร็วกว่าที่คาดไว้หลังจากที่คลายล็อกดาวน์ให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเดินหน้าได้ทำให้จากเดิมที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะติดลบประมาณ 7% ก็คาดว่าจะติดลบลดลงเหลือ 6% เท่านั้น

อย่างไรก็ตามแม้ทุกฝ่ายจะคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเวลาที่ประเทศไทยจะเริ่มได้รับวัคซีนโควิด-19 ล็อตแรกประมาณกลางปี 2564 แต่จากวันนี้จนถึงวันที่ได้วัคซีนยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก เช่น ความเสี่ยงที่อาจจะมีการแพร่ระบาดระลอก 2 ในประเทศซึ่งจะกระทบกับเศรษฐกิจ หรือแม้กระทั่งหากมีการแพร่ระบาดในบางพื้นที่ที่เป็นจังหวัดท่องเที่ยวก็อาจจะกระทบกับการฟื้นตัวของท่องเที่ยวที่เริ่มดีขึ้นได้

สำหรับปัจจัยอื่นๆที่สศช.มีความเป็นห่วงนอกจากเรื่องโควิด-19 มีอยู่ 3 ปัจจัยได้แก่

1.การว่างงานซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ในระยะต่อไปการว่างงานจะเพิ่มขึ้น เห็นจากชั่วโมงการทำงานของแรงงานที่เริ่มลดน้อยลง โดยปัจจุบันเริ่มเห็นระยะเวลาการทำงานของแรงงานลดลงจากเฉลี่ย 50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เป็น 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

2.อัตราหนี้ครัวเรือนที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจุบันปรับขึ้นมาอยู่ที่ 83.8% ต่อจีดีพี ซึ่งนอกจากกระทบกำลังซื้อของประชาชน ยังจะเป็นปัญหาสังคมในระยะต่อไปได้

และ 3.ปัจจัยเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาก เนื่องจากไทยมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่อง แม้จะมีการเกิดโควิด-19 มากขึ้นแต่ก็มีเงินทุนไหลเข้า มีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดมาโดยตลอด ขณะที่การนำเข้าสินค้าทุนมีน้อยมากเนื่องจากการลงทุนใหญ่ๆที่มีการนำเข้าเครื่องจักรหรือสินค้าทุนที่นำเข้ามาเพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ

ค่าเงินบาทที่แข็งค่าถือว่าเป็นโอกาส ในการปรับโครงสร้างการผลิต และโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างไร เพราะในระยะยาวเราจะอยู่แบบพึ่งการส่งออกกับท่องเที่ยว 60% ของจีดีพีไม่ได้อีกแล้ว เพราะส่งออกที่เราทำอยู่หลายสินค้าเริ่มสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน เพราะเพื่อนบ้านก็ผลิตสินค้าที่ใกล้เคียงกับเราด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า ขณะที่เอกชนก็ควรใช้โอกาสที่เงินบาทแข็งลงทุนเครื่องมือเครื่องจักรเพื่อสร้างโอกาสธุรกิจในระยะต่อไป

เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง