ASPS เสิร์ฟ 3 หุ้นเด่น มอง Fund flow ยังไหลเข้าหุ้นไทย
ทันหุ้น - บล.เอเซีย พลัส หรือ ASPS คาด Fund flow ต่างชาติยังไหลเข้าหุ้นไทยระยะถัดไป ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา Fund Flow ต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยชัดเจนขึ้น เนื่องจากคนไทยเริ่มมีการฉีดวัคซีน ตั้งแต่ช่วงปลาย ก.พ. 2564 และทยอยฉีดเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็น Sentiment ที่ดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นในระยะถัดไปสังเกตได้จากประเทศอินโดนีเซียที่มีการฉีดวัคซีนตั้งแต่เดือน ม.ค. 2564 เป็นต้นมา พบว่า Fund Flow มีการไหลเข้าตลาดหุ้นอินโดนีเซียโดดเด่นสุดในภูมิภาค หากนับตั้งแต่ต้นปี(ytd) ซื้อสุทธิกว่า 943 ล้านเหรียญ(ซื้อสุทธิเพียงประเทศเดียว) ทำให้เชื่อว่า Fund Flow ต่างชาติยังมีโอกาสช่วยผลักดันตลาดหุ้นไทยเพิ่มเติมได้ในระยะถัดไป เฉกเช่นเดียวกับตลาดหุ้นอินโดนีเซียที่กล่าวไว้ข้างต้น
อีกทั้งระยะสั้น เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีต่อการโยกย้ายเงินเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นจาก 2 ปัจจัยดังนี้
1. เริ่มเห็นการปรับตัวลงของ Bond Yield สหรัฐฯ หากสังเหตจาก Bond Yield 10 ปีของสหรัฐฯล่าสุดอยู่ที่ 1.53 Bps. ลดลงจากจุดสูงสุดที่ 1.62 Bps. ในวันที่ 5 มี.ค.64
2. Dollar Index เริ่มอ่อนค่าลง โดย Dollar Index ล่าสุดอยู่ที่ 91.42 จุด อ่อนค่ากว่า 1.2% จากจุดสูงสุดในวันที่ 9 มี.ค.64 ที่ระดับ 92.50 จุด
ดังนั้นทั้งสัญญาณระยะสั้นประเด็น Bond Yieldเริ่มปรับตัวลง,Dollar Index เริ่มอ่อนค่าลง และสัญญาณระยะยาว ประเด็นการฉีดวัคซีนที่กระจายตัวมากขึ้นต่อจากนี้ คาดหนุนให้ Fund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยที่ยังขึ้นได้ช้ากว่าตลาดหุ้นในหลายๆประเทศ และช่วยผลักดันดัชนีให้ขยับขึ้นในระยะถัดไป
โดยกลยุทธ์แนะลงทุนหุ้นขนาดใหญ่พื้นฐานแข็งแกร่ง ราคา Laggard SET Indexแต่มี Beta สูง อีกทั้งคาดผลประกอบการปีนี้เติบโตมากกว่า SET Index ที่ฝ่ายวิจัยฯวิจัยฯคาด เติบโตกว่า 32%YoY อย่างBBL PTT และ GULF เป็น Toppicks
GULF โดดเด่นในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่มี Backlog ในมือสูงสุดกว่า 5.1พันเมกะวัตต์
ฝ่ายวิจัยคาดกำไรปกติงวด 1Q64 คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQจากการผ่านพ้นช่วงฤดูกาล Low season ของกลุ่มโรงไฟฟ้า IPP มาแล้ว ประกอบกับค่าใช้จ่าย SG&A ที่คาดจะปรับลดลง เนื่องจากคาดจะไม่มีการบันทึกค่าใช้จ่ายการเข้าซื้อโครงการ Borkumซึ่งเป็น 1 time item
สำหรับภาพรวมทั้งปี 2564 คาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 7.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 83.0%yoyหนุนจากทั้งการรับรู้โครงการที่เข้ามาในปี 2563 กำลังการผลิตรวม 257.5 เมกะวัตต์ ได้เต็มปี และการรับรู้โครงการใหม่ที่จะเข้ามาในปี 2564 อีก ราว 1.4 พันเมกะวัตต์ ประกอบด้วย โครงการ GULF SRC phase 1-2 กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 70% ที่ 927.6 เมกกะวัตต์, โครงการ Mekhong wind ประเทศเวียดนาม phase 1-8 กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น95% ที่ 294.5 เมกะวัตต์, โครงการ Duqm ประเทศโอมาน กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 49% ที่ 159.7 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ยังรับรู้รายได้จากปันผลจากINTUCH ที่เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น 14.4% จากเดิม 8.0% ในปี2563 และคาดจะรับรู้กำไรจากการเข้าซื้อหุ้น 40.0% ของ PTT NGD ได้ในปีแรก