EMPOWERING THAILAND 2021 เคลื่อนอนาคตไทย ด้วยการลงทุน

จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 ทำให้สังคมไทยเกิดความสับสนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และเกรงว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความเป็นอยู่

ขณะที่ประเทศไทยยังต้องเดินหน้า ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตต่อไป โดยคาดหวังว่าเครื่องจักรทางเศรษฐกิจแต่ละตัวจะสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ โดยเฉพาะการลงทุนภาครัฐถือเป็นความหวังหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผ่านทีวีพูล เย็นวันที่ 16 มิ.ย.ว่า จะเปิดประเทศใน 120 วัน เพื่อให้ประชาชนทำอาชีพ ธุรกิจการค้า การท่องเที่ยวกลับมาดำเนินการ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ หลังจากได้ฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างกว้างขวางระดับหนึ่งและมีแผนการฉีดวัคซีนให้ครบตามเป้าหมาย

การเปิดประเทศใน 120 วันครั้งนี้ เป็นโจทย์สำคัญของทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน สำหรับภาครัฐ กระทรวงคมนาคม ถือเป็น กระทรวงที่มีความสำคัญในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ

หากงานของกระทรวงคมนาคมเดินหน้าต่อไปได้ เท่ากับเป็นตัวช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้า สร้างความพร้อมในการเปิดประเทศ และการก้าวต่อไปอย่างมั่นคงหลังเปิดประเทศ ซึ่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคมนี้ ยังจะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศในอนาคตอีกด้วย

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมยังมีโครงการที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้ประชาชน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นโครงการที่ประชาชนควรรับทราบ ทุกวันนี้ ทุกฝ่ายอยากรู้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มจากปี 2563 จนถึงปัจจุบันนี้ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งทางอากาศ ทางน้ำ ทางบก หรือทางราง ในขณะนี้อะไรที่เจอปัญหาหรืออะไรที่ต้องชะลอ รวมถึงอนาคตจากนี้เป็นอย่างไร

หนังสือพิมพ์มติชน ที่ก้าวเข้าสู่ปีที่ 44 เห็นว่าในสถานการณ์เช่นนี้ การลงทุนเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการลงทุนภาครัฐ

ดังนั้น หนังสือพิมพ์มติชนจึงกำหนดจัดสัมมนาเรื่อง “EMPOWERING THAILAND 2021 เคลื่อนอนาคตไทยด้วยการลงทุน” ผ่านรูปแบบ Live Streaming ในวันพุธที่ 23 มิถุนายน 2564 เวลา 09.00-12.00 น.ณ อาคาร บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) โดยสามารถติดตามรับชมได้ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ มติชนออนไลน์ และยูทูบ matichon tv

โดย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “EMPOWERING THAILAND 2021 เคลื่อนอนาคตไทยด้วยการลงทุน”

จากนั้นมาฟังมุมมองของภาคเอกชน ผ่านเสวนาหัวข้อ “ลงทุนไทย เคลื่อนประเทศไทย” โดยนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

จากนั้นจะได้รับฟังถึงบทบาทของภาครัฐ ความคืบหน้าโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะมีผลกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้และปีต่อๆ ไป การขับเคลื่อนต่างๆ ที่จะนำไปสู่การเปิดประเทศ ผ่านเสวนาหัวข้อ “เปิดแผนคมนาคม ร่วมขับเคลื่อนประเทศไทย”

โดยมีผู้รับผิดชอบหลักของงานคมนาคมทุกมิติ ร่วมวงอย่างคึกคัก ตั้งแต่ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง ดำเนินรายการโดยพิิธีกรคุณภาพ นายบัญชา ชุมชัยเวทย์

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมเตรียมแผนงานและเร่งทำการศึกษาในโครงการใหม่ๆ ที่จะครอบคลุมทุกมิติ ทั้งแผนงานเพื่อการขับเคลื่อนประเทศ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายต่อการเดินทาง การทำการค้า และการเปิดประเทศไปสู่โลก ที่เชื่อมโยงด้วยระบบการคมนาคมต่างๆ

หลายเรื่องมีการจัดเตรียมตามนโยบายที่รัฐบาลและทิศทางการขยายตัวของโลก หลายเรื่องเป็นการพัฒนาเพื่อให้เกิดความได้เปรียบทางการแข่งขัน แม้ในช่วงเกิดโควิดระบาด แต่การลงทุนยังต้องทำต่อเนื่องและเตรียมความพร้อม เมื่อการเดินทางกลับมาเท่าภาวะปกติก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19

เช่น การบินระหว่างประเทศ ประเมินว่าภายใน 3 ปีการเดินทางในประเทศและต่างประเทศจะเริ่มฟื้นตัว รวมถึงประเทศก็กลับมาทำยอด 60 ล้านคนอีกครั้ง และหลังจากนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อเนื่อง 10 ปี ดังนั้น ประเทศก็ต้องเตรียมความพร้อมการให้บริการทางอากาศ

อย่างในเร็วๆ นี้ ประเทศไทยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย ผ่านภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ การคมนาคมทางอากาศก็จะเป็นเรื่องอันดับแรกๆ ที่เราต้องเตรียมความพร้อม

“เราต้องวางแผนไปควบคู่กับการเปิดประเทศ ซึ่งทิศทางจำนวนการแพร่ระบาดจากนี้ดูจะลดลง เพราะคนระมัดระวังต่อการใช้ชีวิตและป้องกันการแพร่ระบาด ขณะที่เริ่มกระจายฉีดวัคซีน ขณะนี้เดียวกันผมได้เร่งรัดในเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อลงทุนให้ได้ตามแผนงาน และทำให้ได้เกิดเป้าหมาย 1 เดือน หากบางเรื่องเจอปัญหาก็ให้ปรับเปลี่ยนแผนงานให้สอดรับและทันต่อเหตุการณ์ ปีหน้าจะเริ่มศึกษาในหลายโครงการตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ อย่างโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เช่น การเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (Land Bridge) การศึกษาเรื่องกองเรือพาณิชย์ การวางระบบรางคู่ การบินของประเทศ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดปัญหาฝุ่น การจราจรที่เป็นระบบเทียบเมืองใหญ่ๆ ของโลก เป็นต้น รวมถึงโครงการเชื่อมโยงระบบคมนาคมในประเทศและคมนาคมระหว่างประเทศ เป็นเรื่องที่เราต้องเตรียมพร้อมและเดินหน้า เพราะเมื่อโควิดคลี่คลาย ทุกอย่างจะถูกขับเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเราได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว” นายศักดิ์สยามกล่าว

เนื้อหาในรายละเอียดของแผนงาน เป้าหมาย และประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น รวมถึงคมนาคมในอดีต ปัจจุบันและอนาคตที่จะเกิดขึ้น จะอธิบายกันในงานสัมมนา “EMPOWERING THAILAND 2021 เคลื่อนอนาคตไทยด้วยการลงทุน” บอกกล่าวอธิบายความผ่านหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง

ผู้สนใจ ไม่ว่าจะเป็น นักลงทุน องค์กรต่างๆ รวมถึงประชาชน สามารถรับฟังรับชมได้ทางเฟซบุ๊กไลฟ์ มติชนออนไลน์ และยูทูบ matichon tv ในวันที่ 23 มิถุนายน เป็นเวทีที่จะบอกถึงอนาคตประเทศในแง่มุมของกระทรวงคมนาคม ทั้งการขับเคลื่อนไปสู่การเปิดประเทศใน 120 วันและทิศทางของประเทศไทยหลังจากนั้น