เปิดฉายาสภาฯ แห่งปี ยก "สุทิน" ดาวเด่นสภาฯ ปี 63

วันนี้ (27 ธค.63) เป็นประจำทุกปีที่ผู้สื่อข่าวหลากหลายสำนัก ที่ประจำรัฐสภา จะตั้งฉายา ส.ส. เพื่อสะท้อนภาพลักษณ์การทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ปี 2563 นี้ ผู้สื่อข่าวตั้งฉายาสภาผู้แทนราษฎร เป็น “สภาปลวก-จมปลัก” เสมือน ส.ส.ที่ใช้สภา เป็นเครื่องมือชิงอำนาจ ทำลายฝ่ายตรงข้าม จมปลักกับการทำงานแบบเดิม ๆ ไม่ใช้สภาเพื่อประโยชน์ประชาชน และปีที่ผ่านมา สภาก็ล่มหลายครั้ง จึงเสมือนเป็นปลวก ที่กัดกินหลักการของสภาให้ผุกร่อน

พร้อมยกฉายา “ครูใหญ่ไม้เรียวหัก” ให้กับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ตลอดปีนี้ การทำหน้าที่ของนายชวน ไม่ถูกกังขา และรักษาหลักการของสภาได้อย่างมั่นคง พร้อมสวมบทเป็นครูใหญ่ ถือไม้เรียว กวดขันวินัย ส.ส.ให้สวมหน้ากากอนามัย กำชับให้ ส.ส.เข้าประชุมทำหน้าที่ แต่สุดท้ายสภาก็ยังล่ม สะท้อนให้เห็นว่า ต่อให้ครูชวน จะยึดหลักการ หวดแรงจนไม้เรียวหักคามือขนาดไหน ส.ส.ก็ไม่รู้ร้อนรู้หนาว

ส่วนฉายาผู้นำฝ่ายค้านฯ สื่อมวลชนยกชื่อ “สุทิน คลังแสง?” เป็นฉายาให้กับนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เพราะการทำหน้าที่ของนายสมพงษ์ ที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านตัวจริง ไม่สมตำแหน่ง แต่กลับเป็นนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย และประธานวิปฝ่ายค้าน ที่เป็นเพียงผู้ควบคุมเสียง แต่กลับทำหน้าที่ได้โดดเด่น ถือธงนำ ส.ส.ฝ่ายค้านได้ ผิดกับผู้นำฝ่ายค้านตัวจริง

และยังทำให้สื่อมวลชนสายรัฐสภา มอบตำแหน่ง "ดาวเด่นแห่งปี" ให้กับนายสุทิน จากการทำหน้าที่อย่างท็อปฟอร์มในสภาได้อย่างสมมง

สำหรับตำแหน่ง "ดาวดับแห่งปี" สื่อมวลชนยกให้กับนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย แม้ตำแหน่งนี้จะมี มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ ตีคู่กันมาด้วย จากจุดยืนการเมืองที่โลเลไร้จุดยืน แต่นายวิสาร กลับแซงทางโค้ง ใช้มีดกรีดแขนตัวเองกลางสภา เรียกร้องนายกฯ แก้ปัญหาการเมือง ซึ่งเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งที่นายวิสารเป็น ส.ส.หลายสมัย และยังเคยเป็นถึงรัฐมนตรี จึงควรเป็นแบบอย่างที่ดี สื่อมวลชนจึงมอบตำแหน่งดาวดับให้ และหวังว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก

ตำแหน่ง “คู่กัดแห่งปี” หนีไม่พ้น “สิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ” กับ “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์” ที่ ส.ส.เต้ เรียกร้องให้นายกฯ ลาออกเพราะเหตุการณ์ทางการเมือง จนทำให้ ส.ส.สิระ ออกมาถากถาง ส.ส.เต้ว่า ถ้าเงินหมดมาบอกได้ จนเกือบดวลมวยกันกลางสภา ทำให้ ประธานชวน ต้องมาปรามทั้ง 2 ฝ่าย ให้คำนึงถึงภาพลักษณ์สภาด้วย

เหตุการณ์แห่งปี 2563 สื่อมวลชนยกให้กับเหตุการณ์ “การประชุมรัฐสภาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ที่ถือเป็นรัฐธรรมนูญ ที่แก้ยากที่สุด และการเสนอแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ ยังเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนเข้าสภาเพื่อเสนอแก้ไขด้วย

สำหรับ "วาทะแห่งปี 2563" เป็นของ “ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ” ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับวาทะ “มันคือแป้ง” ที่ร้อยเอกธรรมนัส ชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อเช้ามืดวันที่ 27 กุมภาพันธ์ หลังถูกกังขาถึงคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

ปิดท้ายที่ตำแหน่ง “คนดีศรีสภา” ที่หลายปีแล้ว สื่อมวลชนประจำรัฐสภา ไม่สามารถหาสมาชิกรัฐสภาที่เป็นแบบอย่างที่ดีมารับตำแหน่งได้ จึงมีความเห็นร่วมกันที่สมควรยกเลิกตำแหน่งนี้