รีเซต

เตือนภาคกลางเสี่ยงท่วม เหตุฝนมาก-น้ำเหนือทะลัก อาจมีพายุเข้ามาซ้ำเติม

เตือนภาคกลางเสี่ยงท่วม เหตุฝนมาก-น้ำเหนือทะลัก  อาจมีพายุเข้ามาซ้ำเติม
TNN ช่อง16
5 กันยายน 2568 ( 16:22 )
14

ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับปัจจัยที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลางปีนี้


ในช่วงฤดูฝน โดยเฉพาะเดือนกันยายนและตุลาคม มักเป็นช่วงเวลาที่พื้นที่ภาคกลางของประเทศไทยต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีปัจจัยทางธรรมชาติและการบริหารจัดการน้ำหลายด้านที่ซ้อนทับกันจนก่อให้เกิดความเสี่ยงสูงขึ้น


ปัจจัยสำคัญประการแรกคือสภาพอากาศตามฤดูกาล ร่องความกดอากาศต่ำมักเลื่อนลงมาพาดผ่านบริเวณภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน พร้อมกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่หอบความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลอันดามันเข้ามาปกคลุม ทำให้หลายจังหวัดในภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง พื้นที่ใต้เขื่อนขนาดใหญ่ที่รับน้ำจากภาคเหนือ เช่น เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนกิ่วลม และเขื่อนกิ่วคอหมา จึงต้องเตรียมรับมือกับปริมาณน้ำจำนวนมากที่หลั่งไหลลงมา

นอกจากนี้ น้ำเหนือจากฝนและพายุที่ก่อตัวขึ้น เช่น พายุ “คาจิกิ” และ “หนองฟ้า” ได้เพิ่มปริมาณน้ำเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา จนต้องมีการระบายน้ำออกในอัตราที่สูงขึ้นเพื่อรองรับมวลน้ำใหม่ การระบายน้ำในระดับ 1,500–2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนอย่างสิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำสูงขึ้นจากเดิมถึง 30–110 เซนติเมตร ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำและนอกคันกั้นน้ำ

ยิ่งไปกว่านั้น หากเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ใต้เขื่อน จะยิ่งเพิ่มความเปราะบางต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะอำเภอบางบาล เสนา ภาชี และบางปะหัน ที่อยู่นอกเขตคันกั้นน้ำ รวมทั้งจังหวัดนนทบุรีที่หลายชุมชนกว่า 30 แห่งเริ่มประสบปัญหาน้ำท่วมแล้ว ความเปลี่ยนแปลงนี้ตอกย้ำถึงความอ่อนไหวของพื้นที่ชุมชนริมน้ำที่พึ่งพิงระบบคันกั้นน้ำอย่างมาก

 

อีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่อาจมองข้ามได้คือพายุหมุนเขตร้อนที่มักก่อตัวในทะเลจีนใต้ราว 1–2 ลูกต่อปี และมีโอกาสเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยในช่วงเวลาเดียวกัน หากพายุเหล่านี้เข้ามา จะทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นวงกว้าง และเร่งให้ปริมาณน้ำจากภาคเหนือหลั่งไหลลงสู่ภาคกลางอย่างรวดเร็วและรุนแรงยิ่งขึ้น

ด้วยเหตุนี้ การติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด การบริหารจัดการน้ำในเขื่อนหลัก และการเตรียมการป้องกันพื้นที่ลุ่มต่ำ จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากน้ำท่วมในปีนี้

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง